โอ๊ต-ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ อดีตกองหลังทีมชาติไทย ได้ออกมาประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ เนื่องในโอกาสวันเกิดอายุครบ 37 ปี โดยจะสานต่ออาชีพในวงการฟุตบอลด้วยการเป็นโค้ชอะคาเดมี สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด
โดยอดีตปราการหลังทีมชาติไทยได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กว่า
สวัสดีครับ……วันนี้ 11 ม.ค. 2562
เวียนบรรจบครบรอบวันเกิดของผมครบ 37 ปี ผมอยากจะขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ประกาศว่า คงจะถึงเวลาแล้วที่ผมจะขอยุติบทบาทการค้าแข้งของผมลงเพียงเท่านี้……
ตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมา บนเส้นทางลูกหนังของผมนั้น ผมต้องขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน และทุกๆ สโมสรที่ได้มอบโอกาสที่ดี ให้ความไว้วางใจกับผม ทำให้ผมได้มีพื้นที่ในการลงเล่นฟุตบอลเพื่อเติมเต็มความฝัน ของเด็กคนหนึ่งจาก จ.นครสวรรค์ ได้อย่างสมบูรณ์……
โดยเริ่มจาก สโมสรถาวรฟาร์ม
โรงเรียน อัสสัมชัญ ศรีราชา
สโมสรกสิกรไทย
สโมสรพนักงานยาสูบ
สโมสรโอสถสภา
สโมสรการไฟฟ้า
ก่อนที่จะไปเล่นให้กับ ชลบุรี เอฟซี ที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมภูธรทีมแรก ในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศไทยในปี 2007 และรองแชมป์ในปี 2008 และต่อมาได้มาอยู่กับสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด โดยได้แชมป์ไทยลีก 2 ปีซ้อน ในปี 2009 และ 2010 ก่อนที่ผมจะย้ายไปอยู่กับสโมสรบีอีซี เทโรฯ, แบงค็อกฯ, แอร์ฟอร์ซ, พัทยา และราชนาวี เป็นสโมสรสุดท้ายในการค้าแข้งของผม กับเส้นทางอาชีพที่ผมรัก ที่สำคัญ……ความฝันของนักฟุตบอลคนหนึ่งที่อยากจะก้าวไปติดทีมชาติไทยก็เป็นจริงขึ้นมา ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้หากว่าเราไม่มีความมานะ พยายาม อดทน และมุ่งมั่น ทั้งนี้ผมเองก็ต้องขอขอบพระคุณผู้มีพระคุณทุกท่านที่คอยอบรมสั่งสอน จนทำให้ผมได้ก้าวไปสู่จุดดังกล่าว
ถึงแม้วันนี้ผมจะกลายเป็นอดีตนักฟุตบอลคนหนึ่งไปแล้ว แต่ผมก็ยังคงอยู่ในวงการที่ผมรัก โดยตอนนี้ผมได้เริ่มต้นเส้นทางการเป็นโค้ช จากการทำทีมอะคาเดมี เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยู 15 และจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ก้าวมาเป็นโค้ชที่ดีคนหนึ่งของเมืองไทย ให้เหมือนกับนักฟุตบอลรุ่นพี่ที่ผมเคารพรักทุกท่าน……
สุดท้ายนี้ผมต้องขอขอบพระคุณพ่อแม่, ครอบครัว และที่สำคัญที่สุดแฟนบอลทุกๆ ท่านที่ติดตามผลงานของผม และให้กำลังใจผมมาตลอด 18 ปี บนเส้นทางลูกหนัง ผมจะนำประสบการณ์ทั้งหมด กับความรู้ในวิชาชีพที่ผมรักนี้ มาช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ได้ในอนาคตครับ ขอบคุณมากครับ……
ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์
นอกจากการรับใช้ทีมชาติในแดนรับแล้ว โอ๊ต ณัฐพร ยังเป็นเจ้าของประตูชัยแห่งความทรงจำ ด้วยการยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษของซีเกมส์ 2003 รอบชิงชนะเลิศ พาไทยชนะเวียดนาม 2-1 คว้าเหรียญทองฟุตบอลชายในปีนั้นไปครอง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์