ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนถอนกองกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากประเทศซีเรีย ท่ามกลางความประหลาดใจของนานาชาติ หลังทรัมป์ระบุว่า ปฏิบัติการสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (IS) สำเร็จลุล่วง โดยสามารถปราบกลุ่ม IS จนพ่ายแพ้หมดสิ้นแล้ว
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) และทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า การถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากซีเรียถือเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านภารกิจสู่ขั้นตอนถัดไป แต่ทางกระทรวงและทำเนียบขาวไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดแต่อย่างใด
ทรัมป์ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่จะพาทหารอเมริกันกลับคืนสู่มาตุภูมิ หลังจากได้รับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์
การตัดสินใจที่สร้างความประหลาดใจกับหลายๆ ฝ่ายครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเห็นที่ไม่ลงรอยระหว่างคณะบริหารทรัมป์กับบรรดาเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมที่ต้องการให้ทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในซีเรียต่อไป เพื่อสร้างหลักประกันว่ากลุ่ม IS จะไม่ก่อตัวขึ้นมาใหม่
ที่ผ่านมา ทหารราว 2,000 นายมีส่วนร่วมในภารกิจสู้รบจนทำให้กลุ่ม IS ถอยร่นออกจากที่มั่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย อย่างไรก็ตามนักรบติดอาวุธจำนวนมากยังคงปักหลักอยู่ในประเทศดังกล่าว ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนในสภาคองเกรสเตือนว่า การถอนทหารในเวลานี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์
การถอนทหารและลดบทบาทของสหรัฐฯ ยังสร้างความวิตกว่า สหรัฐฯ จะสูญเสียอิทธิพลในซีเรีย ขณะเดียวกันก็ทำให้รัสเซียและอิหร่าน ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย มีบทบาทและอิทธิพลมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวยืนยันว่า กองทัพสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรพร้อมที่จะกลับเข้ามามีส่วนร่วมในปฏิบัติการทางทหารหากมีความจำเป็น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ป้องกันกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงไม่ให้แทรกซึมเข้าพรมแดนของสหรัฐฯ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: