ขึ้นชื่อว่าเป็นเฟซบุ๊ก บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดลำดับต้นๆ ของโลก สำนักงานใหญ่ของเขาย่อมไม่ธรรมดา THE STANDARD เป็นสื่อไทยกลุ่มแรกที่ได้รับเชิญไปเยี่ยมชมตึกแห่งใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จสดๆ ร้อนๆ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ถือว่าพิเศษมาก เพราะปกติเฟซบุ๊กจะไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า นอกจากคุณจะมีเพื่อนทำงานอยู่ในนั้นเท่านั้น
ตึกใหม่แห่งนี้ชื่อว่า MPK 21 ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง แฟรงก์ เกห์รี ตั้งอยู่ข้างๆ สำนักงานใหญ่แห่งเดิมที่เมืองเมนโลพาร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 18 เดือน
จุดเด่นของออฟฟิศใหม่นี้คือสวนบนดาดฟ้าขนาด 15,000 ตารางเมตร (ประมาณสนามฟุตบอล 2 สนาม) ปลูกต้นไม้มากกว่า 200 ต้น ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เกือบ 2 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี โดยตามจุดต่างๆ ก็จะมีโต๊ะให้นั่งปิกนิก ประชุม หรือทำงาน
ผู้สื่อข่าว THE STANDARD เดินเล่นในวันฟ้าเปิด แดดจ้า และอากาศเย็นด้วยความเพลิดเพลิน รู้สึกไม่เหมือนกำลังเดินอยู่ในออฟฟิศ ว่ากันว่ามีสุนัขจิ้งจอกอาศัยอยู่ในสวนแห่งนี้ด้วย
ไมเคิล แบ็ก พนักงานด้าน Public Policy และแอเรียล อาร์ไกเรส พนักงานด้าน Global Communications ที่ทำงานกับเฟซบุ๊กมากว่า 8 ปี เล่าให้ THE STANDARD ฟังว่าตึกแห่งนี้มีคอนเซปต์เน้นความเปิดกว้าง (Openness) และความโปร่งใส (Transpenracy) โดยตั้งใจให้พนักงานได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้ทำงานกันเป็นทีม และได้ใช้สมาธิอยู่กับตัวเองหากต้องการ
ภายในตึกตกแต่งด้วยสไตล์อินดัสเทรียล ใช้วัสดุไม้และอิฐ เปิดเพดานโล่งให้เห็นโครงสร้างของตึกแบบดิบๆ ประดับด้วยงานศิลปะหลายชิ้นกระจายอยู่ทั่วตึก แอเรียลบอกว่าพนักงานที่นี่จะเดินเก่งมาก เพราะสถาปนิกออกแบบให้ทางเดินมีเพียงทางเดียวที่เชื่อมโรงอาหารใหญ่ 5 แห่ง
ขณะที่โต๊ะทำงานของแต่ละคนก็ยังคงคอนเซปต์เปิดกว้างและโปร่งใส นั่นคือจะไม่มีผนังกั้น แม้กระทั่ง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ก็มีแค่โต๊ะทำงานเล็กๆ นั่งรวมกับพนักงานคนอื่น ห้องทำงานที่เปิดกว้างทำให้ออฟฟิศนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น Co-working Space ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับคนที่อยากประชุมหรือนั่งทำงานเงียบๆ ก็สามารถทำได้โดยหาที่นั่งตามจุดทั่วไป หรือจองห้องประชุมที่กระจายอยู่ทั่วตึกผ่านแอปฯ ภายในองค์กร ซึ่งจำเป็นต้องจองล่วงหน้า โดยหน้าห้องจะมีหน้าจอแสดงชื่อและเวลาการใช้งานชัดเจน ภายในมีผนังวัสดุพิเศษที่สามารถเขียนลงไปได้เลย เพราะลบได้ ไม่เลอะเทอะ พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยสำหรับประชุมพร้อมสรรพ
ใกล้มื้อเที่ยง THE STANDARD ได้รับเชิญให้ไปรับประทานอาหารที่โรงอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าฟรี! จัดเต็มด้วยเมนูนานาชาติ มีขนม กาแฟ เครื่องดื่มทุกประเภทให้หยิบตามใจชอบ หากใครไม่อยากเดินไกลก็จะมี Micro Kitchen หรือครัวขนาดเล็กที่บริการขนมรองท้อง ผลไม้ กาแฟ และเครื่องดื่มกระจายอยู่ทั่วทั้งตึกเช่นกัน
ระหว่างรับประทานซอฟต์ครีม แอเรียลบอกว่าเธอเคยได้เจอกับมาร์กด้วย “เขาเป็นคนน่ารักมากค่ะ แต่ก็ยุ่งมากเช่นกัน” ส่วนสิ่งที่เธอชอบมากที่สุดในออฟฟิศนี้คือความยืดหยุ่น ไม่มีเวลาเข้าออกงานประจำ สามารถออกแบบชีวิตได้ด้วยตัวเอง แต่พนักงานส่วนใหญ่ก็อยากเข้าออฟฟิศ เพราะอยากมาเจอเพื่อนร่วมงานที่สนิทเหมือนเป็นเพื่อนมหาวิทยาลัย
ก่อนกลับ ทีมงานเฟซบุ๊กชวนสื่อไทยเขียนชื่อลงบนผนัง The Facebook Wall เราไม่พลาดที่จะเขียนชื่อ THE STANDARD เป็นภาษาไทยแล้วถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก
ปี 2019 เฟซบุ๊กมีแผนจะขยายให้สวนบนดาดฟ้าเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมสาธารณะ เช่น ลานจักรยาน เทศกาลดนตรี หรือตลาดนัดเกษตรกร พวกเขายังมีโครงการอีกมากที่อยากทำ ขณะที่อีกด้านก็มีความท้าทายด้านข่าวปลอมและข้อมูลรั่วไหลที่โดนโจมตีอย่างหนักในช่วงหลังที่ต้องเก็บเป็นการบ้านเพื่อรีบแก้ไข
ก็คงเหมือนกับที่แอเรียลบอกกับเราตอนแหงนมองเพดานว่า “เพดานออฟฟิศเฟซบุ๊กออกแบบมาให้เหมือนยังสร้างไม่เสร็จ สื่อความหมายว่างานของพวกเราก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่มีวันเสร็จ”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์