เช้าวันนี้ (17 ต.ค.) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ เป็นจำเลยในความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี
จากกรณีเมื่อเดือนมกราคม ปี 2543-2544 นายวิรพลได้พรากผู้เยาว์เด็กหญิงผู้เสียหาย ซึ่งขณะเกิดเหตุมีอายุระหว่าง 13-14 ปีเศษไปจากยายซึ่งเป็นผู้ปกครองไปเพื่อการอนาจารและกระทำชำเราหลายครั้งเป็นเวลาประมาณ 2 ปี จนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน 1 คน
ซึ่งในชั้นสอบสวน นายวิรพลปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้พรากผู้เยาว์
หลังองค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพาษา โดยระบุว่าศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพฤติกรรมของนายวิรพลมีการเกี้ยวพาราสีผู้เสียหาย ขับรถมารับผู้เสียหายที่หน้าโรงเรียนแล้วพาไปส่งที่บ้านหลายครั้ง พากันไปมีเพศสัมพันธ์ในที่ต่างๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากยายซึ่งเป็นผู้ปกครอง แม้ผู้เสียหายซึ่งขณะนั้นเป็นผู้เยาว์จะยินยอมก็ตาม
ประกอบกับผลตรวจดีเอ็นเอที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำบุหรี่ เศษจีวร และพระเครื่องของนายวิรพลไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับบุตรชายของผู้เสียหาย และพบว่ามีความสัมพันธ์เป็นบิดากับบุตรจริง โดยนายวิรพลสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ได้ด้วยการตรวจดีเอ็นเอโดยตรง แต่นายวิรพลกลับไม่ยินยอม จึงให้สันนิษฐานว่าดีเอ็นเอเป็นไปตามผลตรวจบนเศษบุหรี่และจีวร
ดังนั้นนายวิรพลกระทำผิดจริงตามฟ้องโดยอาศัยตำแหน่งพระภิกษุ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทำให้ศาสนามัวหมอง พิพากษาลงโทษสถานหนักให้จำคุกฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารจำนวน 8 ปี และฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 8 ปี รวมโทษจำคุก 16 ปี และให้นับโทษต่อจากคดีฉ้อโกงที่หลอกลวงให้ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินและทองคำเพื่อนำไปสร้างพระแก้วมรกตและมหาวิหารครอบองค์พระที่ศาลลงโทษจำคุก 114 ปี แต่ตามกฎหมายให้ลงโทษสูงสุด 20 ปี รวมโทษจำคุก 2 คดี 36 ปี
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายซึ่งถูกอนาจารในคดีนี้ยังได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยยืนยันว่านายวิรพลเคยกระทำความผิดจริงในขณะที่ยังคงสมณะเป็นสงฆ์ และขณะนี้บุตรชายมีอายุ 16 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้นายวิรพลก็เคยส่งเสียเลี้ยงดูและให้เงินเดือนเดือนละ 10,000 บาท แต่หลังจากถูกดำเนินคดี นายวิรพลก็ไม่เคยส่งเงินมาช่วยเหลืออีกเลย ทำให้ต้องยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษเพื่อเรียกร้องค่าดูแลบุตรเป็นเงิน 40 ล้านบาท เมื่อเดือนกันยายน ปี 2556 ซึ่งศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราวจนกว่าศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีพรากผู้เยาว์นี้ก่อน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์