×

คดีขาดอายุความ ศาลอาญายกฟ้อง ‘ปริญญ์’ ไม่ผิดฐานพรากผู้เยาว์ อนาจารหญิงสาววัย 17 ปี ชี้เหตุเกิดตั้งแต่ปี 61

โดย THE STANDARD TEAM
14.12.2023
  • LOADING...
ปริญญ์ พานิชภักดิ์

วันนี้ (14 ธันวาคม) ที่ห้องพิจารณาคดี 914 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีพรากผู้เยาว์ หมายเลขดำ อ. 1849/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดฐานพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร

 

อัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 เวลากลางวัน จำเลยได้พรากหญิงสาวรายหนึ่ง อายุ 17 ปีเศษ ไปจากบิดา มารดา หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร โดยหญิงนั้นเต็มใจ ด้วยการที่จำเลยใช้มือขวาจับมือซ้ายลักษณะกุมมือ และใช้มือซ้ายจับที่ต้นขาของผู้เสียหายโดยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งการกระทำอนาจารดังกล่าวเป็นลักษณะเปิดเผยที่เกิดต่อหน้าธารกำนัล เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง กทม. จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

 

โดยวันนี้ปริญญ์เดินทางมาศาลพร้อมทนายความและเพื่อนสาวคนสนิท

 

ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายมีอายุ 17 ปี มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่

 

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ขณะเกิดเหตุ หญิงสาวผู้เสียหายอายุ 17 ปี สนใจโครงการฝึกอบรมอาชีพ จึงสมัครและเข้าไปฝึกงานกับบริษัทของจำเลย ซึ่งสถานที่ฝึกงานของจำเลยได้จัดเตรียมโต๊ะให้ผู้เสียหายนั่งตรงหน้าห้องทำงานของจำเลย และมีการเรียกผู้เสียหายเข้าไปในห้องทำงานเพื่อพูดคุยระหว่างนั้น มีการจับมือและโอบไหล่หลายครั้ง แต่ผู้เสียหายคิดว่าเป็นการกระทำลักษณะผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก 

 

หลังจากนั้นในวันเกิดเหตุมีการจัดงานเลี้ยง หลังจากเสร็จงานเลี้ยงแล้ว จำเลยอาสาจะพาผู้เสียหายไปส่งที่คอนโดมิเนียม โดยนั่งรถตู้ส่วนตัวที่มีการกั้นผ้าม่านทึบไว้ระหว่างคนขับกับที่นั่งผู้โดยสาร และรถตู้ติดฟิล์มสีดำ ขณะนั่งไปในรถตู้ จำเลยได้สนทนาเชิงสู้สาวกับผู้เสียหายเป็นภาษาอังกฤษ แล้วมีการจับมือ ลูบแขน ต้นขา และถลกกระโปรงผู้เสียหายด้วย ซึ่งผู้เสียหายขัดขืนและขอลงที่สถานีรถไฟฟ้าระหว่างทางก่อนจะถึงคอนโดมิเนียม 

 

จากนั้นจำเลยกำชับไม่ให้ผู้เสียหายนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ผู้เสียหายจึงไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้อื่นทราบ แต่ก็ไม่ฝึกงานต่อและขอลาออก

 

ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ผู้เสียหายทราบข่าวจากสื่อว่า จำเลยไปกระทำอนาจารกับหญิงสาวอื่นหลายราย จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มารดาฟัง และเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน

 

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้แม้เป็นคดีอนาจาร กระทำต่อบุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เมื่อไม่ได้ทำต่อหน้าธารกำนัล จึงเป็นการอนาจาร ซึ่งเป็นความผิดที่ยอมความกันได้ และเมื่อผู้เสียหายมิได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายใน 3 เดือนนับแต่วันเกิดเหตุ จึงเป็นอันสิ้นอายุความ เหตุดำเนินคดีจึงระงับไปตาม ป.วิอาญา มาตรา 39 (6)

 

ส่วนคดีพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดา มารดา เพื่อการอนาจาร ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยอาสาจะไปส่งผู้เสียหายจากบริษัทของจำเลยไปยังคอนโดมิเนียมที่พักของผู้เสียหาย ซึ่งระหว่างที่เดินทางนั่งรถตู้ไม่มีการออกนอกเส้นทาง แต่เมื่อเกิดพฤติการณ์ที่จำเลยจับมือ ลูบแขน ต้นขา ผู้เสียหายระหว่างทางภายในรถตู้ส่วนตัว ผู้เสียหายได้กล่าวว่าจะขอลงระหว่างทาง เพื่อจะไปนั่งรถไฟฟ้ากลับคอนโดมิเนียมที่พักด้วยตนเอง ซึ่งจำเลยยินยอมให้ผู้เสียหายลงจากรถตู้คันดังกล่าว จึงไม่เข้าลักษณะพรากผู้เยาว์ไปจากบิดา มารดา พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง

 

หลังฟังคำพิพากษาเสร็จ ปริญญ์มีสีหน้าเรียบเฉย และรีบเดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

 

รายงานแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษาจำคุกปริญญ์ 4 ปี ฐานล่วงละเมิดทางเพศ แอนนา อดีตภรรยา ลูกนัท-ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย และให้จ่ายค่าชดเชย 2 ล้านบาทด้วย

 

รวมทั้งศาลอาญากรุงเทพใต้ยังได้พิพากษาจำคุกปริญญ์อีก 2 คดี จำคุกคดีละ 2 ปี และ 2 ปี 8 เดือน ตามลำดับ และพิพากษายกฟ้อง 1 คดี นอกจากนี้ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้พิพากษายกฟ้องปริญญ์ 1 คดี 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising