บาร์เทนเดอร์คู่หู เซบาสเตียน เดอ ลา ครูซ (Sebastian De la Cruz) และฟิลิป สเตฟาเนส (Philip Stefanescu) แห่งบาร์ลายดอก Tropic City ร้านค็อกเทลสไตล์เขตร้อนแห่งแรกของกรุงเทพฯ ปล่อยเซตค็อกเทลใหม่ กับเทคนิคการทำที่ชวนตาโตไม่แพ้เดิม

 

 

เซตเมนูใหม่ Volume 2 ที่มีค็อกเทลตัวใหม่ถึง 8 ตัวนี้ แน่นอนว่ายังคงชูโรงเรื่องการนำเสนอรสชาติแปลกใหม่ ผ่านการใช้วัตถุดิบเขตร้อนที่เหมาะกับไทย ทั้งผลไม้นานาพันธุ์ รวมถึงผัก สมุนไพร และเครื่องเทศที่พวกเขานำมาผสมกับเทคนิคเชิงวิทยาศาสตร์ล้ำเฉพาะตัว เน้นทั้งการอินฟิวส์ ทำให้เป็นสีใส ทำทิงเจอร์และบิตเตอร์เอง ไปจนถึงการดึงรสชาติจากไขมัน! (Fat-Washing)

 

เมนูใหม่แกะกล่องนี้มีตั้งแต่ Agitations Tropicales เมนูที่นำกล้วยและเนยมาฟอกความเป็นไขมันออกให้เหลือแต่เพียงรสหอมหวาน เข้ากับรสชาติของรัม Plantation 3 Stars ตัวแทนกลิ่นอายของสายลมแบบแคริบเบียน ตบท้ายด้วยมะนาว หรือจะเมนูคลาสสิกที่ตั้งชื่อตามรหัสมอร์สอันเป็นมรดกสงครามโลกอย่าง 3 Dots and a Splash เด่นที่ใช้รัมมาแยกน้ำออกจากน้ำมันมะพร้าว ใส่ชรับสับปะรดและเหล้าช็อกโกแลต เหยาะด้วยทิงเจอร์ทำจากกล้วย

 

 

หรือจะจิบจดหมายรักแด่วง R&B วงโปรดของบาร์เทนเดอร์ ด้วยเมนูเครื่องดื่มที่ทำจากไขกระดูกอย่าง Bone Thugs-N-Harmony เครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากเจ้าของเพลงดัง Crossroads แห่งยุค 90’s ที่พันมาในผ้าโพกหัวอันเป็นเอกลักษณ์ของวง แก้วนี้ใช้เทคนิคการขจัดไขมันออกจากไขกระดูก (Bone Marrow) ดึงกลิ่นหอมของเนื้ออ่อนๆ ออกมาผสมกับรัม และความหอมหวานของสับปะรดที่นำมาเคี่ยวจนเป็นคาราเมล เหยาะด้วยบิตเตอร์ปิดท้าย

 

อีกเมนูที่เรียกพลังความสดชื่นแบบแม้จะหวานนำแต่ก็อาจหลงรักเอาได้คือ Chronic Iced Tea ชาเย็นที่ไม่ใส่ชา แต่ใส่ทั้งรัม เหล้าคาชากา (Cachaça) พีช สับปะรด มะนาว น้ำมะพร้าว และใบมินต์แบบเป็นกอบเป็นกำ รสชาติหอมหวานกลมกล่อม มีกลิ่นวานิลลาอ่อนๆ เรียกความสดชื่นได้ดีสุดๆ

 

 

และยังมีเมนูเซอร์ไพรส์อย่าง Tropicopop (Milk Punch) ที่หลอกให้เราคิดว่าจะได้ดื่มค็อกเทลแบบนมๆ แต่เปล่า พวกเขาใช้เหล้ารัม 2 ชนิด ผสมกับน้ำมะพร้าว ลิ้นจี่ มะนาว และนมแพะ! แต่แก้วนี้กลับเป็นน้ำสีใสแจ๋วโรยด้วยดอกไม้ ทั้งรสชาติชื่นใจไร้ความนม ทิ้งไว้เพียงกลิ่นอ่อนๆ ของนมที่แฝงตัวอยู่ในค็อกเทลได้อย่างประหลาดใจ อันเป็นเทคนิคพิเศษของการทำให้ของเหลวขุ่นกลายร่างเป็นสีใสแจ๋วของพ่อมด สวมเสื้อลายดอกแห่ง Tropic City ที่ไม่ควรพลาด นอกจากนั้นยังมีเมนู Ramos A La Playa ที่ทำจากเตกิล่า และ Skywalker ที่นำความเป็นม้ากระทืบโรงมาผสมกับ Luke Skywalker มาใส่ด้วยส่วนประกอบที่ใช้ ‘อากาศ’ เข้ามาช่วยเรื่องรสชาติ เป็นต้น

 

นอกจากนั้น 2 หนุ่มหนวดดูโอหลังบาร์ และหัวโจกทีมบาร์เทนเดอร์ แอรอน เกร็นดอน (Arron Grendon) ผู้ชนะเวที Chivas Master Global 2018 ยังได้ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องชูวัตถุดิบไทยๆ อย่าง 80/20 มาคิดเมนูกันหิวใหม่ ซึ่งอาหารที่นำมาเสิร์ฟนั้นเชฟถึงกับบุกบาร์ หยิบจับรัมเคียงกับแรงบันดาลใจมาปรุงเป็นเมนูให้กินคู่กับค็อกเทลอีกด้วย

 

ใครที่อยากลิ้มลองเมนูเซตใหม่ของ Tropic City ก่อนจะเปิดให้ลิ้มลองอย่างเป็นทางการ ทางร้านเปิดให้ ‘ลองชิม’ 3 แก้ว ในราคาพิเศษจนถึงวันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2561 นี้ที่ร้าน Tropic City ซอยเจริญกรุง 28 บางรัก กรุงเทพฯ

 

อ่านเรื่อง Tropic City ดื่มด่ำพักใจในบรรยากาศเขตร้อนกับค็อกเทลสไตล์ทรอปิคัล ณ บาร์น้องใหม่ย่านเจริญกรุงได้ที่นี่

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล