เรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่สำหรับวงการแพทย์ของไทย เพราะล่าสุด (25 ก.ย.) องค์การเภสัชกรรม (อภ.) โดย นายแพทย์โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม พร้อมด้วย นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ได้เข้ารับมอบกัญชาของกลางจำนวนกว่า 100 กิโลกรัมจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่ส่งมอบให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้องค์การเภสัชกรรมนำกัญชาที่เป็นของกลางเหล่านี้ไปศึกษาและวิจัยทางการแพทย์
การส่งมอบครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ส่งมอบนอกรอบเวลาปกติ ก่อนที่กัญชาของกลางเหล่านี้จะถูกนำไปเผาทำลายปีละ 1 ครั้งในวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เนื่องในวันยาเสพติดโลก
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่าของกลางที่ได้รับเหล่านี้ ทางองค์การเภสัชกรรมได้ขออนุญาตจาก อย. และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อนำไปใช้ในงานวิจัยทางการแพทย์ โดยจะศึกษาวิจัยด้วยมาตรฐานเทคโนโลยีสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์ในรูปแบบของน้ำมันกัญชาชนิดหยดใต้ลิ้น โดยคาดว่าจะผลิตให้เสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้จำนวน 18,000 ขวด ขวดละ 5 ซีซี เพื่อให้พร้อมที่จะนำไปรักษากับผู้ป่วยจริงเมื่อ พ.ร.บ. ยาเสพติดถูกแก้ไขให้สามารถใช้กัญชารักษาผู้ป่วยได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย
นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ยังได้เสริมว่าสำหรับการยกระดับการวิจัยและพัฒนายาจากสารสกัดกัญชาไปสู่ระดับอุตสาหกรรมนั้น ทางองค์การเภสัชกรรมจะมีการดำเนินการอย่างครบวงจรตั้งแต่การพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์การปลูกที่เป็นไปตามมาตรฐานของ GAP จนถึงผลิตเป็นสารสกัดต้นแบบกัญชาทางการแพทย์เพื่อใช้สำหรับรักษาโรคต่างๆ และได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อขออนุญาต อย. ในการครอบครองกัญชาของกลางในปริมาณหลายตันต่อปี เพื่อทยอยทำเป็นสารสกัดเข้าสู่ระบบการวิจัยทางคลินิกให้เพียงพอ
ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบรายละเอียดของการปรับปรุงพื้นที่สำหรับปลูก รวมถึงพื้นที่ของห้องวิจัยที่ใช้สำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ
โดยแนวคิดการปรับปรุงพื้นที่เพาะปลูกกัญชานี้อาจต้องใช้งบประมาณถึง 100 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่จะทำให้กัญชาอยู่ในระดับอุตสาหกรรมจะทำได้ก็ต่อเมื่อสามารถปลดล็อกให้กัญชาใช้เพื่อการรักษาโรคทางแพทย์ได้ในเดือนพฤษภาคม 2562 หรืออย่างช้าที่สุดคือการเลื่อนไปอีก 3 เดือน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์