นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถูกคุมตัวขึ้นศาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์วันนี้เพื่อรับทราบข้อกล่าวหารวม 21 กระทง ซึ่งโยงเงินจำนวน 681 ล้านเหรียญสหรัฐที่หายไปจากกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนของมาเลเซีย (1MDB) และไปอยู่ในบัญชีส่วนตัวของนาจิบ
หลังนาจิบพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับ มหาเธร์ โมฮัมหมัด ในเดือนพฤษภาคม เขาก็เผชิญกับมรสุมชีวิตที่ถาโถมเข้าใส่เป็นระลอกๆ โดยในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ เขาถูกทางการรื้อคดีขึ้นมาตรวจสอบกรณีการทุจริตเงินกองทุน 1MDB ก่อนถูกตำรวจปราบปรามการทุจริตของมาเลเซียควบคุมตัวเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.)
เจ้าหน้าที่ระบุว่านาจิบและเพื่อนสนิทถูกกล่าวหาว่าโยกเงินจากกองทุนโดยมิชอบ และอาจมีการนำเงินจำนวนนี้ไปใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ไล่ตั้งแต่ซื้อผลงานศิลปะไปจนถึงคฤหาสน์หรู โดยนาจิบถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินรวม 21 กระทง นอกจากนี้ยังอาจถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมภายใต้กฎหมายปราบปรามการคอร์รัปชันของมาเลเซียด้วย
นัวร์ ราชิด บิน อิบราฮิม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของมาเลเซีย เปิดเผยว่าความผิด 21 กระทงนี้ประกอบด้วย ความผิดฐานรับเงินอย่างผิดกฎหมาย 9 กระทง ใช้เงินอย่างผิดกฎหมาย 5 กระทง และโยกเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายไปยังที่อื่นๆ อีกรวม 7 กระทง
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ของตำรวจไม่ได้เอ่ยถึงกองทุน 1MDB ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ในสมัยที่นาจิบดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ (DoJ) ซึ่งกำลังตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วยระบุว่าเงินจำนวน 681 ล้านเหรียญสหรัฐถูกโอนจากกองทุนดังกล่าวเข้าสู่บัญชีส่วนตัวของนาจิบหลายบัญชี โดย DoJ ประมาณการด้วยว่าเงินที่ถูกทุจริตในกองทุน 1MDB อาจสูงถึง 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: AFP