สถานการณ์น้ำที่จังหวัดหนองคาย ระดับน้ำโขงยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยชั่วโมงละ 4 เซนติเมตร ทำให้เอ่อล้นตลิ่งและหนุนเข้าน้ำสาขาของแม่น้ำโขงในจุดที่มีประตูเปิดปิดน้ำ เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง และติดลำห้วยสาขา โดยเฉพาะที่ชุมชนดอนเขียว ตำบลท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ น้ำโขงได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร ระดับน้ำสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองท่าบ่อ ฝ่ายปกครอง ชาวบ้าน และทหาร ได้ช่วยกันขนย้ายข้าวของของชาวบ้านขึ้นมาไว้บนที่สูง ริมถนน และยังให้ความช่วยเหลือผู้พิการที่บ้านถูกน้ำท่วมให้ออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราวก่อน ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์ระดับน้ำโขงอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมอพยพหากระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่องในระยะนี้
ด้าน นายเฉลิมชัย ม่วงไหมแพร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานหนองคาย เปิดเผยว่า จากการสังเกตระดับน้ำที่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) ที่มีการเพิ่มขึ้น 1 เมตร และจะไหลลงมายังจังหวัดหนองคายในอัตรา 70% ของปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปด้วย เฉลี่ยชั่วโมงละประมาณ 2 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 12.45 เมตร และคาดการณ์ว่าในวันนี้ (3 ก.ย.) ระดับน้ำจะสูงถึง 13 เมตรหรือมากกว่า จะส่งผลให้ในพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งระดับตลิ่งอยู่ที่ 12.2 เมตร มีน้ำเอ่อท่วมได้ในบางพื้นที่ เบื้องต้นได้มีการแจ้งเตือนประชาชนให้ขนของขึ้นที่สูง
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า การติดตามระดับน้ำซึ่งจะเพิ่มสูงสุดในวันที่ 4 กันยายนนี้ จากนั้นสถานการณ์จะกลับมาทรงตัวตามปกติ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าระดับน้ำนั้นจะลดลงเมื่อใด แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต่างช่วยกันเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่เพื่อรับปริมาณน้ำที่อาจจะมาเพิ่มได้ โดยกรมชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่องมาติดตั้ง เพื่อเร่งสูบน้ำที่ท่วมในพื้นที่การเกษตรในเขตเมือง และได้เฝ้าติดตามปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางกรมชลประทานเองได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาพ: กรมประชาสัมพันธ์
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- กรมประชาสัมพันธ์
- www.innnews.co.th/regional-news/news_178012/