ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง พฤติกรรมผู้บริโภคไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า ‘Mindful Consumption’ หรือการบริโภคอย่างมีสติ ซึ่งไม่ใช่การหยุดใช้จ่าย แต่เป็นการเลือกใช้อย่างพิถีพิถันมากขึ้น โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญคือการมองหาคุณค่าที่แท้จริงและการใส่ใจสุขภาพ
ผลวิเคราะห์จาก The 1 Insight ชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคปัจจุบันไม่ได้ตัดสินใจซื้อเพียงเพราะสินค้าราคาถูกหรือมีส่วนลดอีกต่อไป แต่ให้ความสำคัญกับ ‘Value-Oriented Spending’ หรือการใช้จ่ายเพื่อคุณค่าที่ได้รับ ซึ่งแต่ละช่วงวัยมีนิยามความคุ้มค่าที่แตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์
สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Y และ Gen Z ความคุ้มค่าคือการได้ค้นพบและครอบครองสินค้าที่สะท้อนตัวตน พวกเขามักมองหาแบรนด์ทางเลือกใหม่ๆ หรือแบรนด์เฉพาะกลุ่มที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน โดยเฉพาะแบรนด์แฟชั่นไทยและเกาหลีรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนี้
ในขณะที่กลุ่มครอบครัวที่มีลูก นิยามคุณค่าจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมทักษะและการเรียนรู้ของบุตรหลาน พ่อแม่ยุคใหม่มองหา Family Solution ที่รวบรวมสินค้าและบริการสำหรับทุกคนในครอบครัวไว้ในที่เดียว ตั้งแต่การศึกษา, แฟชั่น ไปจนถึงร้านอาหาร เพื่อความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่ดี
ส่วนกลุ่มรุ่นใหญ่อย่าง Gen X และ Baby Boomers กลับให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเพื่อการมีอายุยืนยาว หรือ Longevity การใช้จ่ายจึงเทไปที่บริการสปาเพื่อสุขภาพ, ฟิตเนส รวมถึงผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริม เพื่อสร้างเกราะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บในระยะยาว
อีกหนึ่งมิติของความคุ้มค่าที่ขาดไม่ได้คือสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการซื้อสินค้า ผู้บริโภคยุคนี้มีความฉลาดเลือกและคิดคำนวณอย่างรอบคอบ พวกเขาไม่ได้มองแค่ตัวสินค้า แต่ยังคำนึงถึงคะแนนสะสม ส่วนลดจากบัตรเครดิต หรือสิทธิพิเศษจาก Loyalty Program ที่จะได้รับตามมา
พฤติกรรมนี้สะท้อนชัดเจนผ่านการเลือกใช้บริการร้านประจำเพื่อสะสมคะแนน หรือการวางแผนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อแลกไมล์สายการบิน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคต้องการความคุ้มค่าสูงสุดที่ครอบคลุมทั้งตัวสินค้าและประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุกครั้งที่จ่ายเงินออกไป
นอกจากเรื่องความคุ้มค่าแล้ว เทรนด์ ‘Health & Wellness’ ได้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการจับจ่ายในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผู้คนทุกเพศทุกวัยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกายและใจเป็นอันดับต้นๆ ส่งผลให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ข้อมูลระบุว่ายอดขายในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ขณะที่ตลาดวิตามินและอาหารเสริมเติบโตสูงกว่า 5 เท่า ซึ่งยืนยันได้ว่าคนไทยหันมาใส่ใจเรื่องโภชนาการและการสร้างภูมิต้านทานอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงแค่กระแสชั่วคราวแต่เป็นวิถีชีวิตใหม่
สินค้ากลุ่ม Activewear และอุปกรณ์ออกกำลังกายก็ได้รับความนิยมสูงตามไปด้วย โดยสินค้ายอดฮิต 3 อันดับแรกได้แก่ รองเท้าวิ่ง, ชุดออกกำลังกาย และเครื่องออกกำลังกาย สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนหันมาดูแลรูปร่างและทำกิจกรรมทางกายมากขึ้น ทั้งการไปยิมและการออกกำลังกายที่บ้าน
ธุรกิจความงามและสุขภาพก็เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, สปา และฟิตเนส นอกจากนี้ยอดการซื้อประกันสุขภาพยังเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า แสดงถึงการวางแผนชีวิตที่รัดกุมและการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
แนวโน้มเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า Mindful Consumption กำลังเปลี่ยนโครงสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคไทยอย่างถาวร การใช้จ่ายต่อจากนี้จะถูกกำหนดด้วยความต้องการคุณค่าที่แท้จริงต่อชีวิต และการให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเองและคนรัก ซึ่งจะเป็นโจทย์ใหญ่ที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัวตามให้ทัน
ภาพ : Ham patipak / Shutterstock


