เกิดเหตุสะเทือนขวัญกลางกรุงไทเป ไต้หวัน หลังคนร้ายใช้ระเบิดควันก่อเหตุโกลาหล และไล่ทำร้ายร่างกายประชาชน ก่อนจะตกจากอาคารสูงระหว่างการหลบหนีการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อคืนนี้ (19 ธันวาคม) เกิดเหตุโจมตีกลางกรุงไทเปบริเวณย่านจงซาน โดยหลักฐานจากวิดีโอเผยให้เห็นภาพของ จาง เหวิน (Chang Wen) ชายผู้ก่อเหตุวัย 27 ปี สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นและหน้ากาก ปาระเบิดควันและระเบิดขวดใส่ฝูงชนบริเวณรถไฟฟ้าใต้ดิน ก่อนจะหลบหนีผ่านศูนย์การค้าและกลับไปโรงแรมที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ 800 เมตร เพื่อหยิบอาวุธ ก่อนจะก่อเหตุปาระเบิดควันซ้ำสอง และไล่แทงผู้คนบริเวณถนนหน้าสถานีจงซาน
หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุเข้าไปในห้างสรรพสินค้า แต่กลับพลัดตกลงมาจากอาคาร หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไล่ล่าและปิดล้อมเส้นทางหลบหนี โดยมีรายงานจาก BBC ว่า จาง เหวิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลแล้ว
จากเหตุความไม่สงบครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีก 9 ราย โดยมีรายงานว่า หนึ่งในนั้นคือชายนิรนามที่พยายามเข้ามาห้ามปรามคนร้าย แต่ถูกทำร้ายร่างกายด้วยของแข็งจนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
โจว จงไท่ (Cho Jung-tai) นายกรัฐมนตรีไต้หวันให้สัมภาษณ์ว่า จาง เหวิน มีภูมิลำเนาอยู่ที่เถาหยวน เคยเป็นทหารอาสากองทัพอากาศและทำงานที่สนามบินซงซาน แต่ถูกปลดประจำการในปี 2022 โดยมีประวัติอาชญากรรมและมีหมายจับค้างอยู่ ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า อัยการเคยออกหมายเรียกเขาในปี 2024 ฐานขัดขวางการรับราชการทหาร เพราะไม่ไปรายงานตัวตามกำหนด
โจวระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการโจมตีโดยเจตนา แต่ยังไม่ทราบแรงจูงใจที่ชัดเจน ซึ่งกำลังอยู่ในการสอบสวนปูมหลังและความเชื่อมโยงของผู้ก่อเหตุ ขณะที่ ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวันให้คำมั่นว่า ทางการจะเร่งคลี่คลายคดี พร้อมย้ำว่า จะไม่ผ่อนปรนและทำทุกวิถีทางเพื่อรับประกันความปลอดภัยของประชาชน
อนึ่ง รายงานของ The Guardian ระบุว่า ระเบิดควันที่ใช้ก่อเหตุเป็นอุปกรณ์จำลองของกองทัพสหรัฐอเมริกา โดยมีจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ของไต้หวัน ขณะที่ผู้ค้าให้สัมภาษณ์ว่า ได้ตรวจสอบบันทึกการค้าหลังเกิดเหตุแล้ว แต่ไม่พบยอดขายที่ ‘ผิดปกติ’ จนสังเกตได้ พร้อมย้ำว่า อุปกรณ์เหล่านี้มีไว้เพื่อใช้งานถูกกฎหมาย เช่น กิจกรรมกลางแจ้ง การฝึก หรือการส่งสัญญาณทางการทหาร
ในอดีต ไต้หวันเคยเผชิญเหตุอาชญากรรมคล้ายคลึงกัน หลังชายคนหนึ่งก่อเหตุไล่แทงผู้คนในสถานีรถไฟใต้ดินกลางกรุงไทเป โดยมีผู้เสียชีวิต 4 ราย และผู้ก่อเหตุถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2016
ภาพ: Ann Wang / Reuters
อ้างอิง:
