วันนี้ (17 ธันวาคม) แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเตรียมพร้อมการเลือกตั้งว่า เป็นการเตรียมการเลือกตั้งตามไทม์ไลน์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประกาศ โดยได้มีการพูดคุยกับผู้สมัครในเรื่องของข้อปฏิบัติ ข้อควรระวังตามแบบแผนปกติของการเลือกตั้งอยู่แล้ว
ส่วนการชูสโลแกน ‘พูดแล้วทำ พลัส’ มีความแตกต่างจากเดิมอย่างไร แนนกล่าวว่า เป็นในเชิงสโลแกน โดยพรรคยังยืนหยัดในจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค ที่พูดแล้วทำให้สำเร็จ ส่วนคำว่า พลัส คือการขยายความ ทั้งในเชิงแนวนโยบาย และทำให้ประชาชนเห็นว่า สิ่งที่พรรคทำสำเร็จมาแล้ว หรือสิ่งที่กำลังทำอยู่ในช่วงที่อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี สองเดือนที่ผ่านมา ส่วนจะแตกต่างจากสโลแกนที่ผ่านมาอย่างไรนั้น มีทั้งการขยายแนวนโยบายให้ครบทุกมิติของประเทศ ซึ่งอนุทินได้พูดเอาไว้ในแนวหลักๆ
ขณะที่ช่วงสัปดาห์นี้ มีนักการเมืองและแกนนำบ้านใหญ่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย มีจำนวนเท่าไร และจะมีเข้ามาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โฆษกพรรคกล่าวว่า พรรคมีผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค และมีความประสงค์จะลงรับเลือกตั้งในนามของพรรคภูมิใจไทยจำนวนหลายคน บางคนอาจถูกมองว่าเป็นบ้านใหญ่ ซึ่งมีทุกกลุ่มและหลากหลายกลุ่มอาชีพ
ส่วนประเด็นเรื่องบ้านใหญ่ ที่หลายคนอาจมองว่าพรรคภูมิใจไทยรวมไปด้วยบ้านใหญ่ โฆษกพรรคกล่าวว่า พรรคมีความหลากหลาย และได้แสดงให้เห็นว่าพรรคมีความพร้อมในการทำงาน พร้อมในเรื่องของการลงพื้นที่ ซึ่งได้แสดงให้เห็นแล้วในหลายพื้นที่ ถึงความพร้อมในการทำงานและการดูแลประชาชนในพื้นที่
ส่วนการประมาณการว่าจะได้ที่นั่ง สส. จำนวนเท่าใดนั้น ต้องย้อนไปฟังคำให้สัมภาษณ์ของอนุทิน ที่ได้ประมาณการเอาไว้ ทั้งนี้ยืนยันว่า ขณะนี้เป็นเพียงการประมาณการ ไม่ใช่เฉพาะทางพรรคเท่านั้น แต่รวมถึงการประเมินของสื่อด้วย ซึ่งมีหลายพื้นที่และหลายตัวเลข อย่างไรก็ตาม พรรคยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุดในทุกพื้นที่
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยว่าจะเปิดตัวเมื่อใด และจะมีครบทั้งสามคนหรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า จะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ และจะเปิดตัวอย่างแน่นอน โดยหากเปรียบเป็นการฉายหนังตัวอย่าง ก็เป็นอย่างที่อนุทินเคยพูดเอาไว้ คือ พรรคเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากการทำงานและประสบการณ์ด้านต่างๆ และเปิดโอกาสให้ทุกท่านที่มีความสามารถ ไม่ใช่เฉพาะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นแคนดิเดตทุกตำแหน่งของพรรค ที่คัดเลือกจากหลายมิติ โดยทุกคนต้องพร้อมทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
สำหรับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก 2 คน จะเป็นศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเอกนิติ นิติทัฑณ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือไม่ โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ต้องรอดูอีกครั้ง
สำหรับการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี จะได้ที่นั่ง สส. ยกจังหวัดหรือไม่ แนน ในฐานะอดีต สส. อุบลราชธานี กล่าวว่า ไม่กล้าพูดขนาดนั้น
ส่วนการหาเสียงท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคตะวันออก จะเป็นข้อจำกัดในการหาเสียงหรือไม่ แนนกล่าวว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ช่วงการเลือกตั้งมีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น ครอบคลุมหลายจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะโซนอีสานใต้เท่านั้น แต่รวมไปถึงภาคตะวันออกด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่ามีข้อจำกัดอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการเข้าถึงประชาชนในยุคปัจจุบัน ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการติดป้ายหาเสียงเท่านั้น แต่ยังมีสื่อออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้อยู่แล้ว
ขณะที่บรรยากาศการรับสมัคร สส. วันสุดท้าย ที่พรรคภูมิใจไทย ตลอดช่วงเช้า มีบรรดาผู้สมัคร สส. กทม. เข้ามาติวเข้มก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ โดยสำหรับพื้นที่ กทม. พรรคภูมิใจไทยจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 33 เขต ภายใต้การดูแลของเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ร่วมกับศุภมาส อิสรภักดี เหรัญญิกพรรค ในฐานะแกนนำพื้นที่ กทม. ขณะที่ผู้สมัคร สส. ในพื้นที่อื่น และ สส. บัญชีรายชื่อ ได้เข้ามาถ่ายภาพผู้สมัคร ณ ที่ทำการพรรคอีกด้วย
