ค่ำวานนี้ (16 ธันวาคม) จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ อดีต สส. ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กภายหลังได้รับการประกันตัวเมื่อช่วงบ่าย โดยชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำพิพากษาคดีใบ สด.43 เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
จิรัฏฐ์ระบุว่า ศาลมีคำพิพากษา ‘ยกฟ้อง’ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร แต่ตัดสินว่ามีความผิดในข้อหา ‘ใช้เอกสารปลอม’ ด้วยเหตุผลว่า การกระทำกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ จึงลงโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
จิรัฏฐ์ ได้เปิดเผยข้อต่อสู้และข้อสังเกตที่ศาลอาจยังไม่ได้หยิบยกมาพิจารณา เขายืนยันความบริสุทธิ์ใจในการใช้เอกสาร โดยเปิดเผยว่า ได้รับเอกสารมาจากสัสดีในสถานที่และเวลาราชการ จึงเชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นของจริง อีกทั้งลายเซ็นเจ้าหน้าที่ในใบ สด.43 ก็ตรงกับต้นขั้วของกองทัพ ตลอด 13 ปีที่ผ่านมาไม่เคยถูกดำเนินคดีหนีทหาร หากเอกสารปลอมจริง ตนก็ควรถูกดำเนินคดีไปนานแล้ว
นอกจากนี้ โจทก์ยังฟ้องโดยที่ยังไม่เคยเห็นใบ สด.43 ฉบับจริงของตน และไม่ได้พิสูจน์ว่าใครเป็นคนปลอม หรือปลอมอย่างไร เพียงแต่อ้างระเบียบการออกเอกสารเท่านั้น
จิรัฏฐ์ตั้งข้อสังเกตเรื่องพยานหลักฐาน รวมถึงความผิดปกติในชั้นไต่สวนหลายประเด็น อาทิ หลักฐานเอกสารของกองทัพส่วนใหญ่มีสภาพถูกทำลาย (เจาะรู), มีการนำภาพจาก TikTok ของคู่กรณีมาเป็นหลักฐาน, มีการขุดประวัติอาชญากรรมเก่าเมื่อ 13 ปีก่อน มาเป็นมติเพื่อใช้ประโยชน์ทางราชการก่อนถูกฟ้องเพียง 8 เดือน
จิรัฏฐ์ระบุว่า ทหารพระธรรมนูญใช้ภาพซูมจากรายการสัมภาษณ์ โดยอ้างว่าเห็นเลขลำดับในร่องนิ้วขณะถือเอกสารไม่ตรงกับต้นขั้ว ซึ่งจิรัฏฐ์แย้งว่าตนพยายามดูเฟรมต่อเฟรมแล้ว ก็ยังมองไม่เห็นตัวเลขดังกล่าว
จิรัฏฐ์มองว่า การนำเอกสารที่ไม่มีผลทางกฎหมายแล้วมาใช้ แต่กลับได้รับโทษจำคุกถึง 2 ปี ไม่รอลงอาญา เป็นโทษที่รุนแรงเกินสัดส่วน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าคดีนี้มีความพยายามจากฝ่ายความมั่นคงที่เป็น “หัวเรือใหญ่” ในการดำเนินคดีอย่างเป็นขบวนการ
ทั้งนี้ จิรัฏฐ์ทิ้งท้ายว่า ขอน้อมรับผิดในสิ่งที่เคยทำพลาดในอดีตและคำวิจารณ์จากสังคม แต่สำหรับคดีนี้ที่มองว่าเป็นเรื่องการเมือง ก็จะขอต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในชั้นอุทธรณ์ต่อไป


