×

Crazy Rich Asians ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่กำลังทลายกำแพงให้ชาวเอเชียมีบทบาทสำคัญในฮอลลีวูด

22.08.2018
  • LOADING...

*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์

 

ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของตัวละครชาวเอเชียในภาพยนตร์ที่ฮอลลีวูดลงทุนเองมักเป็นแบบไหน

 

นักบู๊แอ็กชันที่เปลือกนอกมีแต่ความตลกหรืออำมหิต? เป็นนางพญาโหดเหี้ยมที่ฝรั่งเรียกว่า “Dragon Lady”? เป็นหนุ่มเนิร์ดผอมแห้งหรือลงพุงที่หาแฟนไม่ได้? เป็นเพื่อนตลกโปกฮาของนางเอกผมบลอนด์ ตาฟ้า หุ่นทรงนาฬิกาทราย? หรือที่เศร้าสุด เป็นได้แค่ตัวละครประกอบผู้หญิงที่เป็นวัตถุทางเพศ?  

 

สิ่งเหล่านี้เป็นค่านิยมเดิมๆ ของวงการฮอลลีวูดที่แทบไม่เคยก้าวข้ามได้ในการนำเสนอตัวละครเชื้อสายเอเชีย และเป็นกลไกของอุตสาหกรรมที่มีอิทธิพลสุดเชิงวัฒนธรรมที่ทำให้คนฝั่งตะวันตกมีความคิดที่ผิดต่อ ‘พวกเรา’ ชาวเอเชีย

 

แต่สิ่งเหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนไม่มากก็น้อย เพราะภาพยนตร์ชื่อ Crazy Rich Asians ที่ทั่วโลกกำลังพูดถึงและหลงรัก!

 

 

ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้เรื่องนี้ที่ดัดแปลงจากนิยายชื่อดังขายดีของ The New York Times โดยผู้เขียน เควิน ควอน เล่าเรื่องราวของ ราเชล ชู (คอนสแตนซ์ วู) อาจารย์เศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัย NYU ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่ตัดสินใจเดินทางตามแฟนหนุ่มที่คบกันมาหนึ่งปีอย่าง นิค ยัง (เฮนรี โกลดิง) ไปงานแต่งเพื่อนสนิทของเขาที่สิงคโปร์ และต้องพบเจอครอบครัวของนิคเป็นครั้งแรก ซึ่งราเชลไม่รู้มาก่อนว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ แถมนิคก็เป็นหนุ่มโสดที่สาวๆ หมายปอง การเดินทางมาสิงคโปร์ครั้งนี้กลับทำให้ราเชลต้องตกเป็นเหยื่อโดนนินทาและกลั่นแกล้งจากคนในสังคม แต่อุปสรรคที่หนักหนาไปกว่านั้นก็คือแม่ของนิค เอลานอร์ ยัง (มิเชล โหยว) ที่ไม่ชอบใจราเซลและมองว่าเธอไม่คู่ควรกับลูกชายแม้แต่น้อย

 

แม้เนื้อเรื่อง Crazy Rich Asians จะตามหลักสูตรหนังโรแมนติกคอเมดี้แบบ ซินเดอเรลลา ที่เราเห็นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนรู้สึกเชย และสำหรับคนไทยอาจรู้สึกคล้ายพล็อตละครไทยหลังข่าวแบบ ‘แม่สามีไม่ปลื้มว่าที่สะใภ้’ แต่เรากลับมองว่าเพราะ ‘ความเชย’ นี้แหละคือเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ เพราะฮอลลีวูดดูเหมือนจะสนใจแต่ผลิตภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่หรือหนังแฟนตาซีออกนอกโลกด้วยความคุ้มค่าเชิงธุรกิจ

 

สิ่งสำคัญกว่าคือ Crazy Rich Asians ทำให้เราชาวเอเชียไม่ต้องจินตนาการกว้างไกลและตั้งความหวังว่าสักวันหนึ่ง จูเลีย โรเบิร์ตส์ หรือ แบรด พิตต์ ที่เราเห็นประจำบนจอ ทางฮอลลีวูดจะเปิดโอกาสให้นักแสดงมีรูปลักษณ์ภายนอกและเชื้อชาติเหมือนเราบ้าง โดยไม่ต้องเป็นแต่หนังเชิงประวัติศาสตร์หนักๆ หรือเป็นตัวละครแนวที่เอ่ยมาช่วงต้นบทความ เพราะจริงๆ แล้วคนเอเชียสามารถเป็นตัวละครนำแบบร่วมสมัยที่หล่อสวย มีสมอง ความคิด และมีมิติที่ไม่ต้องมาวางกรอบให้เสียเวลา

 

 

อีกความสำคัญของ Crazy Rich Asians คือการเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ฮอลลีวูดยอมลงทุนสร้างเองกับนักแสดงและผู้กำกับเชื้อสายเอเชียทั้งหมดในรอบ 25 ปี นับตั้งแต่ภาพยนตร์ดราม่า The Joy Luck Club ในปี 1993 ของผู้กำกับ เวย์น หวัง โดยไม่ใช่ภาพยนตร์ของเอเชียที่ข้ามไปดังในอเมริกาช่วงเทศกาลแจกรางวัลตอนต้นปี และค่ายหนังซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายเท่านั้น เช่น Crouching Tiger, Hidden Dragon ของอั้งลี่ หรือ Chungking Express ของหว่องกาไว เป็นต้น

 

กว่าภาพยนตร์ Crazy Rich Asians จะถูกสร้างและฉายได้ก็มีค่ายหนังฮอลลีวูดมากกว่าห้าแห่งยื่นข้อเสนอให้ผู้กำกับของหนัง จอน เอ็ม. จู และเควิน ควอน ผู้ประพันธ์ แต่ในตอนหลังผู้เข้าชิงรอบสุดท้ายก็คือ Netflix ที่ยอมจ่ายเงินล่วงหน้าเจ็ดหลัก และสัญญาจะดัดแปลงหนังสืออีกสองเล่มในซีรีส์ China Rich Girlfriend และ Rich People Problems เป็นภาพยนตร์บนแพลตฟอร์ม ในขณะที่วอร์เนอร์บราเธอส์ได้ยื่นข้อเสนอด้วยการการันตีจำนวนโรงฉายจะเป็นแบบเชิงพาณิชย์ Wide Release ซึ่งตอนหลังวอร์เนอร์บราเธอส์ชนะไป เพราะ จอน เอ็ม. จู เชื่อว่าหนังเรื่องนี้มีความสำคัญเพียงพอที่คนจะยอมเดินทางไปโรงภาพยนตร์ จ่ายเงินไปดู และกลายเป็นภาพยนตร์ของมหาชนทั่วโลก ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะแค่ในอเมริกาก็ได้ฉายกว่า 3,384 โรง และขึ้นอันดับตารางบ็อกซ์ออฟฟิศ พร้อมทำเงินไปแล้ว 35.2 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์แรก

 

 

อีกอย่างที่ต้องชื่นชมผู้กำกับ จอน เอ็ม. จู คือเขาสามารถแคสต์กลุ่มนักแสดงที่มีเคมีเข้ากันอย่างลงตัว ดึงเสน่ห์และความธรรมชาติออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ เช่นพระเอก เฮนรี โกลดิง ที่แสดงภาพยนตร์ Crazy Rich Asians เป็นเรื่องแรกในชีวิต หลังเคยเป็นผู้ดำเนินการท่องเที่ยวของช่อง BBC มาก่อนนี้ และกำลังจะมีหนัง A Simple Favor กับ เบลก ไลฟ์ลี

 

เฮนรี โกลดิง ได้สร้างตัวละคร นิค เฮนรี ที่ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูร่างกายภูมิฐานและแข็งแกร่ง แต่ก็มาพร้อมความเซนสิทีฟและสุขุมที่ไม่หลงระเริงกับฐานะตัวเอง ส่วนนักแสดง อควาฟินา ในบท ไพค์ ลิน ก็ขโมยซีนทุกตอนที่เธอปรากฏตัวด้วยการแสดงที่ดูล้นและทุ่มเทไปกว่า 500% และเพราะ Crazy Rich Asians เราสามารถทำนายว่าต่อไปทางค่ายหนัง ค่ายทีวี หรือค่ายแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่างๆ จะต้องชวนเธอไปทำโปรเจกต์อีกมากมาย อาทิซีรีส์หรือวาไรตี้โชว์

 

ส่วนด้านโปรดักชัน การตัดต่อ และองค์ประกอบต่างๆ ของ Crazy Rich Asians ที่มีงบสร้างราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐก็มาพร้อมสีสันและความฟู่ฟ่าตระการตาที่ทำให้เรานึกถึง The Devil Wears Prada และ Sex and the City ซึ่งต่อไปประเทศสิงคโปร์คงไม่ต้องเสียเงินทำวิดีโอโปรโมตการท่องเที่ยว เพราะเรื่องนี้ได้ไปถ่ายทั้งที่ เอสพลานาด พาร์ก, มาริน่า เบย์ แซนด์ส รีสอร์ต และการ์เดนส์ บาย เดอะ เบย์ ส่วนแบรนด์แฟชั่นที่นำมาใช้ก็มีความเป็นเทศกาลหนังเมืองคานส์ผสม Met Gala ย่อมๆ เพราะมี ทั้ง Valentino, Dior, Elie Saab, Ralph Lauren, Stella McCartney และ Alexander McQueen รวมถึงเครื่องประดับ Chopard, Bulgari และ Swarovski อีกด้วย

 

 

ทำไมเราจึงควรตีตั๋วไปดูหนังเรื่องนี้แทนที่จะรอลิงก์ดาวน์โหลด

 

เพราะความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นตัวชี้วัดให้ฮอลลีวูดเห็นว่าเรื่องราวของคนเอเชียก็มีคุณค่าเทียบเท่ากับเชื้อชาติอื่นๆ และถ้าอุตสาหกรรมนี้เห็นความสำคัญ หวังจะมาทำเงินกับทวีปเราเป็นประจำ ก็แปลว่าเนื้อหาของภาพยนตร์ที่ผลิตออกมาก็ต้องให้เกียรติคนของเรา และเปิดโอกาสให้คนเอเชียมีจุดยืนที่ไม่ได้เป็นแค่ตัวประกอบที่ถูกมองด้วยหางตา

 

และถ้าในอเมริกา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังอยากจะสร้างกำแพงแบ่งแยกคนต่างๆ เชิงสังคม ก็ไม่ควรลืมว่าในโลกบันเทิง ฮอลลีวูดที่ดูต่อต้านประธานาธิบดีมาโดยตลอด ก็ควรเริ่มต้นทำลายกำแพงต่างๆ ของตัวเองที่สืบเนื่องมานานแสนนาน ด้วยการเปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อสาย และทุกสีผิวมีหนังใหญ่ของตัวเอง และไม่โดนแบ่งแยกว่าเป็นแค่หนังเฉพาะทาง

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่เราต้องผลักดันกันต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวันหยุด เพราะถ้าจะให้รออีก 25 ปีกว่าฮอลลีวูดจะกลับมาทำหนังที่ให้คนเอเชียมาเป็นนักแสดงหลักอีกครั้ง ถึงตอนนั้นก็เหมือนการนับหนึ่งใหม่ข้างหลังกำแพงที่สูงกว่าเดิม

 

 

 

Crazy Rich Asians เข้าฉาย 23 สิงหาคมนี้

 

ภาพ: Courtesy of Warner Bros.

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X