หอการค้าไทย เผย น้ำท่วมภาคใต้ เสียหายหนัก 40,000 ล้านบาท ในเดือนเดียว เป็นรองแค่น้ำท่วมปี 54 ชี้ภาคท่องเที่ยวและบริการหนักสุด ฉุด GDP ไทยเหลือ 1.9%
วันที่ 2 ธ.ค. ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกและน้ำท่วมในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังประเมิน ส่งผลให้เกิดความเสียหาย 500,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าเปรียบเทียบ กับมหาอุทกภัยในปี 2554 ที่มีมูลค่าความเสียหายราว 1.4 ล้านล้านบาท กรณีนี้จึงถือเป็นอุทกภัยที่มีความเสียหายรุนแรงเป็นอันดับที่ 2 ของไทย
ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินเบื้องต้นในกรอบระยะเวลา 1 เดือน ผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ 10 จังหวัด มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 2.19 ล้านคน หรือราว 798,600 ครัวเรือน
โดยจังหวัดสงขลา ได้รับผลกระทบสูงสุด คิดเป็น 60% ของความเสียหายทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตามด้วยพัทลุง
โดยระยะเวลา 1 เดือน ประเมินว่าจะมีความเสียหายประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาทต่อวัน ในช่วงสถานการณ์รุนแรง หรือรวมกว่า 40,000 ล้านบาท คิดเป็นความเสียหาย 0.22% ต่อ GDP ซึ่งความเสียหายประมาณจากระบบเศรษฐกิจที่เป็นอัมพาต
ทำไมเศรษฐกิจกระทบหนัก ธุรกิจท้องถิ่นเข้าขั้นโคม่า แม้เสียหายเป็นรอง ปี 54
ธนวรรธน์ ระบุว่า ภาคท่องเที่ยวและบริการมีมูลค่าความเสียหายมากที่สุด สูงถึง 22,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของภาคการท่องเที่ยว และจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวภาคใต้ หาดใหญ่จำนวนมากในช่วง พ.ย.-ม.ค. ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหารและโรงแรมต้องปิดกิจการชั่วคราว ธุรกิจท้องถิ่นเข้าขั้นโคม่า
“โดยเฉพาะการยกเลิกซีเกมส์ที่สงขลา เป็นหนึ่งในจังหวัดเจ้าภาพ ย้ายการแข่งขัน 10 ชนิดกีฬา 109 เหรียญทองไปที่กรุงเทพทั้งหมด สูญเสียโอกาสการตลาด การใช้จ่ายนักเที่ยว 5,000 คน ทำลายความเชื่อมั่นนานาชาติ และโอกาสทางเศรษฐกิจ รองลงมาคือ ภาคเกษตรกรรม ราว 10,000 ล้านบาท และภาคการผลิตและสาธารณูปโภค อีกประมาณ 6,840 ล้านบาท”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เสียงสะท้อนชาวสงขลา ในวันที่ฝนถล่ม ‘หาดใหญ่’ เมืองหลวงเศรษฐกิจใต้ กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตระดับชาติ เสี่ยงสูญหมื่นล้าน
- ‘เชียงใหม่’ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 50 ปี ปัญหาอยู่ตรงไหน บทเรียนครั้งนี้สะท้อนอะไร
- ‘กรุงเทพฯ’ มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ซ้ำรอยปี 2554 แค่ไหน?
- เกาะติดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ อัปเดตลำดับเหตุการณ์สำคัญ
นอกจากนี้ จากการสำรวจผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ ระบุว่า อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูมากกว่า 1 เดือน เนื่องจากทรัพย์สินและสต็อกสินค้าเสียหาย ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เสียหาย
โดยสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐเร่งด่วนที่สุด คือ “เงินสด” ไม่ใช่ “หนี้สิน” มองว่ารัฐบาลควรอัดฉีดเงินเยียวยาโดยตรงหรือเงินชดเชย เพื่อให้ถึงมือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด
ขณะที่มาตรการ “สินเชื่อ” ควรเป็นทางเลือกเสริมไม่ใช่มาตรการหลัก นอกจากนี้ ขอให้รัฐบาล เร่งซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน และจัดหน่วยปฏิบัติการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาพร้อมใช้งานโดยเร็ว
ปรับลด GDP ไทยปี 2568 เหลือ 1.9%
ทั้งนี้ หอการค้าไทย ยังได้ปรับประมาณการ GDP ไทยปี 2568 ลดลงมาอยู่ที่ 1.9% จาก 2% ซึ่งส่งออกโต 11.1% และการลงทุนของภาครัฐ 6.4% แต่ถูกฉุดรั้งด้วยการอุปโภคภาครัฐที่หดตัวแรงในไตรมาสที่ 3 และผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ช่วงปลายปี
โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2569 (ณ ธ.ค.68) จะขยายตัวชะลอลงที่ 1.6% จากการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน /การลงทุนของภาครัฐและเอกชน จะเป็นแรงหนุนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีหน้า
ภาพ : Sirachai Arunrugstichai / Getty images


