วานนี้ (1 ธันวาคม) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธย วงการอุตสาหกรรมสะเทือน จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำทัพบูรณาการร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานพิทักษ์มาตรฐาน บุกโรงงานคอนกรีตย่านอำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังการข่าวระบุมีการกระทำผิดกฎหมาย สั่งเชือดทันทีไม่มีละเว้น ย้ำชัดกฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ปฏิบัติการครั้งนี้ จ่าเอกยศสิงห์ ลงงพื้นที่บัญชาการด้วยตนเอง พร้อมด้วยทีมงาน พีรวัส สมวงศ์ เลขานุการ รมช.อุตสาหกรรม, เอกนิติ รมยานนท์ เลขาธิการ สมอ., ปณตสรรค์ สูจยานนท์ รองอธิบดี กรง. และ ชยพล สายทวี ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 1 (DSI) เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตคอนกรีตแบบปูพรมทุกตารางนิ้ว หลังได้รับการประสานข้อมูลลับว่ามีการลักลอบกระทำผิด พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
จากการตรวจสอบอย่างเข้มข้น พบความผิดปกติที่ซุกซ่อนอยู่ แม้โรงงานจะมีใบอนุญาต มอก. บางส่วน แต่กลับพบพฤติกรรมมือถือสาก ปากถือศีลดังนี้
-ขยายอาณาจักรเถื่อน: แอบติดตั้งเครื่องจักรและขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต หวังฟันกำไรโดยไม่สนกฎกติกา
-ทิ้งกากมักง่าย: ลักลอบนำวัสดุใช้แล้ว (เศษอิฐแตกหัก) ออกไปทิ้งนอกโรงงานโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายปี 2566
-เมินเฉยต่อลมหายใจชาวบ้าน: ไร้เงาระบบขจัดฝุ่นละออง ปล่อยมลพิษฟุ้งกระจาย ซ้ำเติมปัญหาฝุ่น PM 2.5 สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนรอบข้าง
จ่าเอกยศสิงห์ ได้สั่งการทันทีผ่านสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใช้มาตรา 37 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 สั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนทั้งหมด พร้อมเดินหน้าดำเนินคดีอาญาทุกข้อหา ทั้งการขยายโรงงานเถื่อนและการทิ้งกากอุตสาหกรรม เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้ใครกล้าทำผิดซ้ำ
จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “การลงพื้นที่วันนี้ คือคำประกาศสงครามกับผู้ประกอบการที่ไร้ความรับผิดชอบ ผมและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะไม่ยอมให้ใครมาหากินบนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน การบังคับใช้กฎหมายต้องเข้มข้น ไม่มีการลูบหน้าปะจมูก เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทยให้ขาวสะอาด และทำให้ประชาชนศรัทธาว่าอุตสาหกรรมพึ่งพาได้ จริงๆ”
ทั้งนี้ จ่าเอกยศสิงห์ ได้กำชับเด็ดขาดให้ติดตามผลการปรับปรุงอย่างใกล้ชิด หากโรงงานยังดื้อแพ่ง ไม่แก้ไขตามกำหนด จะต้องเจอกับมาตรการขั้นสูงสุดต่อไป










