วันนี้ (24 พฤศจิกายน) วัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ทหารกัมพูชายิงระเบิด BM-21 ตกใส่ปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านน้ำเย็น อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และพื้นที่จังหวัดชายแดนอื่นๆ ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พล.ต.ท.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ทำหนังสือส่งถึงอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินคดีกับ ฮุนเซน และ ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในฐานความผิดนอกราชอาณาจักร
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 24–29 กรกฎาคม 2568 โดยทหารกัมพูชาได้ระดมยิงปืนและระเบิดเข้ามายังพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย ได้แก่ บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 32 ราย บาดเจ็บ 238 ราย ทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือน ทรัพย์สินและสถานที่ราชการเสียหายรวมมูลค่าเกือบร้อยล้านบาท
วัชรินทร์ ชี้แจงข้อกฎหมายว่า แม้การกระทำจะเกิดขึ้นในประเทศกัมพูชา แต่ผลของการกระทำเกิดขึ้นในประเทศไทย ทำให้คนไทยบาดเจ็บและล้มตาย จึงเข้าข่าย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 5, 7 และ 8 ซึ่งถือเป็น คดีความผิดนอกราชอาณาจักร ที่ต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย
ทางตำรวจภูธรภาค 3 ได้รวบรวมสำนวนคดีกว่า 140 คดี รวมเป็นสำนวนเดียวส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา ซึ่งวัชรินทร์ระบุว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน โดยขณะนี้อัยการสำนักงานการสอบสวนได้หารือกับผู้บังคับบัญชาแล้วเห็นว่าเป็น เรื่องสำคัญระดับประเทศ และจะเร่งทำความเห็นเสนออัยการสูงสุดให้สั่งเป็นคดีนอกราชอาณาจักร
หากอัยการสูงสุดมีคำสั่งลงมา วัชรินทร์ เตรียมจะตั้งตนเองเป็นหัวหน้าคณะทำงาน พร้อมด้วยรองอธิบดีอีก 3 ท่าน และระดมพนักงานอัยการเกือบทั้งสำนักงานการสอบสวน เข้าร่วมสอบสวนกับทีมตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากพยานกว่า 300 ปากที่ตำรวจสอบไปแล้ว เพื่อให้สำนวนมีความรัดกุมที่สุดก่อนส่งให้อัยการสูงสุดชี้ขาดสั่งฟ้อง
ต่อประเด็นที่มีนักวิชาการมองว่าเป็นเรื่อง สงครามระหว่างประเทศ กฎหมายไทยไม่อาจบังคับใช้ได้นั้น วัชรินทร์ แย้งว่า เรายังไม่ได้ประกาศสงคราม แต่เราถูกโจมตี และจากการหารือกับฝ่ายความมั่นคง พบว่าการฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) มีขั้นตอนซับซ้อนและทำได้ยาก
“เราจะยอมให้คนไทยที่ตาย บาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย เรื่องเงียบหายไปเฉยๆ ได้อย่างไร ช่องทางกฎหมายไทยคือวิธีที่ดีที่สุด เรามีอำนาจอธิปไตยและเขตอำนาจศาลไทย ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสียที่ได้ร้องทุกข์ไว้แล้ว” วัชรินทร์ กล่าวย้ำทิ้งท้าย


