ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Human Made กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์สตรีทแฟชั่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ตั้งแต่ดีไซน์ลายกราฟิกสุดเอกลักษณ์ ไปจนถึงโลโก้รูปหัวใจและสัตว์น้อยทั้งหลายที่ทำให้คนจดจำได้ทันที แม้จะเป็นแบรนด์ที่เกิดจากความหลงใหลส่วนตัว แต่กลับเติบโตกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลระดับโลก Human Made ผสมผสานงานดีไซน์สไตล์เรโทร งานคราฟต์ และความขี้เล่นในแบบญี่ปุ่นได้อย่างโดดเด่น
การเติบโตของ Human Made ไม่ได้เกิดจากกระแส แต่เกิดจากคาแรกเตอร์เฉพาะตัวที่แข็งแรงจนทำให้แฟนทั่วโลก ตั้งแต่สายสตรีทฮาร์ดคอร์ไปจนถึงเซเลบริตี้ระดับโลกอยากเป็นเจ้าของอย่างน้อยสักหนึ่งชิ้น วันนี้ THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแบรนด์นี้กันมากขึ้น
BRAND ORIGINS
Human Made ถูกก่อตั้งโดย NIGO® หรือ Tamoki Nagao ผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการสตรีทแฟชั่นญี่ปุ่นที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ในปี 2010 หลังจากที่เขาออกจาก BAPE และต้องการกลับไปสู่แก่นแท้ของสิ่งที่เขาหลงใหลจริงๆ นั่นคือ งานคราฟต์ และ วัฒนธรรมเรโทรอเมริกัน ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนยุคปัจจุบันอาจหลงลืมไป Nigo ตั้งชื่อแบรนด์ว่า Human Made เพื่อสื่อถึงความตั้งใจว่าทุกชิ้นต้องมีกลิ่นอายของงานที่ผ่านมือมนุษย์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นงานเย็บ การพิมพ์กราฟิก ไปจนถึงการเลือกซิป กระดุม หรือเนื้อผ้า ทุกอย่างต้องผ่านการ “เลือกด้วยใจ” เพื่อสื่อถึงความรู้สึกที่จับต้องได้เหมือนของเก่าที่มีชีวิตและมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง

MADE IN JAPAN QUALITY
หากต้องเลือกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนตัวตนของ Human Made ได้ดีที่สุด คงเป็นคำว่า Craftsmanship เพราะ Nigo และทีมงานให้ความสำคัญกับการผลิตแบบญี่ปุ่นในทุกขั้นตอน เสื้อผ้าของ Human Made จึงมีความคมแบบที่สัมผัสได้ ทั้งจากผ้า การเย็บ และดีเทลเล็กๆ ที่ไม่ค่อยพบในแบรนด์แฟชั่นเชิงอุตสาหกรรม Human Made เลือกทำงานกับโรงงานญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญการผลิตเสื้อผ้าแนววินเทจ ซึ่งมีเทคนิคการตัดเย็บที่ซับซ้อนกว่าเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วไป เช่น การใช้จักรโบราณ การทำตะเข็บแบบ chain-stitch การเลือกผ้าแบบสมัยก่อนที่ทั้งทนและมีเท็กซ์เจอร์เฉพาะตัว สิ่งเหล่านี้ทำให้เสื้อสเวตของ Human Made หนาและนุ่มเป็นพิเศษ แจ็กเก็ตแคนวาสมีความแข็งแรงเหมือนงานเวิร์กแวร์ดั้งเดิม และเดนิมของแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะทั้งเรื่องโทน สี และความเฟดเมื่อใช้งานนาน Human Made ยังยืนหยัดไม่ขยายการผลิตแบบ Mass แม้จะมีดีมานด์สูงทั่วโลก นี่คือการตัดสินใจเชิงธุรกิจที่ชัดเจนว่าแบรนด์เลือกคุณภาพมากกว่าปริมาณ ทำให้สินค้าแต่ละชิ้นไม่เพียงมีคุณภาพสูง แต่ยังมีความพิเศษที่จับต้องได้ ทั้งในฐานะงานแฟชั่นและในฐานะของสะสม

THE ICONIC LOGO
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Human Made แตกต่างจากแบรนด์สตรีตอื่นคือ “ระบบโลโก้” ที่ไม่ได้มีเพียงสัญลักษณ์เดียว แต่เป็นชุดภาษาภาพ (Visual Language) ที่แบรนด์สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน โลโก้หัวใจสีแดงพร้อมคำว่า Human Made คือภาพแรกที่ทุกคนนึกถึง เรียบง่ายแต่ชวนจดจำ มันไม่ใช่โลโก้ที่ต้องการบอกว่า “นี่คือแบรนด์แฟชั่น” แต่สื่อความอบอุ่น ความตั้งใจ และความคลาสสิกแบบที่เห็นครั้งเดียวก็อาจตกหลุมรักได้ นอกจากหัวใจแล้ว Human Made ยังมีชุดลายสัตว์ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ เช่น หมี เสือ เป็ด หรือกระต่าย ซึ่งแต่ละตัวสะท้อนความสนุกและจิตวิญญาณของแบรนด์ในแบบที่ไม่ต้องพูดเยอะ ระบบโลโก้แบบ multi-icon นี้คือสิ่งที่ทำให้ Human Made แทบไม่ต้องเขียนชื่อแบรนด์กำกับเลย เพราะแฟนๆ สามารถจำได้ทันทีจากสไตล์ของลาย มันคือวิธีสร้าง Brand Identity ที่ลึกกว่าแค่ใส่โลโก้ลงบนเสื้อแต่เป็นการสร้างภาษาของแบรนด์ที่ผู้ใส่และผู้เห็นสื่อสารถึงกันได้โดยอัตโนมัติ

PHILOSOPHY & DESIGN
ปรัชญาของ Human Made คือการมองแฟชั่นผ่าน “อดีต” แต่ทำให้เป็น “ปัจจุบัน” ใส่ได้ทุกวัน การเล่าเรื่องผ่านวัฒนธรรมป๊อปในยุคที่ทุกอย่างยังทำด้วยมือ ดีไซน์ของแบรนด์จึงสะท้อนความเป็น retro Americana ผสมความขี้เล่นแบบญี่ปุ่นอย่างลงตัว เสื้อยืดสีขาวพร้อมกราฟิกสัตว์ ลายหัวใจสีแดง แจ็กเก็ตแคนวาส และสเวตเชิ้ตฟิตคลาสสิก ไอเท็มเบสิกที่ดีไซน์ทุกชิ้นแฝงอารมณ์สนุกๆ ผสานงานเย็บคุณภาพสูงสไตล์ญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ Human Made มีเอกลักษณ์แตกต่างจากแบรนด์สตรีตอื่น แม้จะดึงแรงบันดาลใจมาจากอดีต แต่ Human Made ไม่ได้ติดอยู่กับความวินเทจจนใส่ไม่ได้จริง จุดแข็งคือการออกแบบให้เสื้อผ้าที่ดูเหมือนของสะสม กลับใส่ง่ายในชีวิตประจำวัน เหมาะทั้งกับแฟนสายแฟและคนที่ชอบสไตล์เรียบเท่

LV COLLABORATION
คอลลาบอเรชันระหว่างผู้ทรงอิทธิพลแฟชั่นสตรีทระหว่าง Nigo และ Virgil Abloh เกิดขึ้นในช่วงปี 2021 การร่วมงานระหว่าง Human Made และ Louis Vuitton (LV²) คือหนึ่งในงานคอลแลบที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปีนั้น โดยเฉพาะเมื่อ Nigo ทำงานเคียงข้าง Virgil Abloh สองดีไซเนอร์ที่มาจากพื้นฐานต่างกันแต่มีจุดร่วมคือความกล้าที่จะทดลอง และการทำลายกำแพงระหว่าง Street กับ Luxury คอลเล็กชันนี้หยิบเอา DNA ของ Human Made มาเลเล่าใหม่ในสไตล์ลักชัวรี เช่น ลายหัวใจและสัตว์ที่ถูกทำให้หรูขึ้นผ่านวัสดุระดับไฮเอนด์ งานแพตเทิร์นผสมโมโนแกรมของ Louis Vuitton และซิลูเอตต์ที่สะท้อนความเป็นอังกฤษแบบเรโทร จุดเด่นคือการยกระดับลายสตรีทให้กลายเป็นงานลักชัวรีเต็มรูปแบบ ครั้งนี้ถือว่า Human Made ไปไกลกว่าแค่วงการสตรีทแวร์ และกลายเป็นโปรเจกต์ที่ทำให้ทั้งโลกจับตาแบรนด์ Human Made

CORPORATE STRUCTURE
Human Made เริ่มต้นจากทีมเล็กๆ ที่เน้นการควบคุมคุณภาพแบบละเอียดสุดขีด ซึ่งเป็นสิ่งที่ Nigo ให้ความสำคัญมาตลอด เขาเลือกทำงานกับโรงงานในญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญงานเย็บแนววินเทจ เพราะต้องการเก็บคาแรกเตอร์ของเสื้อผ้ายุคเก่าไว้ให้มากที่สุด แม้ต้นทุนสูงกว่าการผลิตแบบ Mass แต่ผลลัพธ์คือคุณภาพที่แตะต้องได้จริง ในเชิงธุรกิจ Human Made ใช้กลยุทธ์ “ผลิตน้อยแต่คุณภาพสูง” ทำให้สินค้าเกิดความ Rare มีคุณค่าต่อการสะสม อีกทั้งยังใช้การทำงานคอลแลบอย่างสม่ำเสมอเป็นเครื่องมือขยายฐานผู้ติดตาม โดยร่วมงานกับศิลปินวงการลักชัวรีและแบรนด์ชั้นนำ โมเดลธุรกิจนี้ทำให้ Human Made เติบโตอย่างมั่นคงโดยไม่ต้องเร่งขยาย หรือสูญเสียความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งทุกวันนี้ Human Made มีพนักงานทั้งหมดกว่า 175 ชีวิตทั่วโลกกับ NIGO รับตำแหน่ง Creative Director, Rei Matsunuma รับตำแหน่งเป็น CEO, Kaws และ Pharrell Williams รับตำแหน่ง Adviser และ Verdy รับตำแหน่ง Creative Partner ส่วนกลุ่มลูกค้าของ NIGO ก็มีอยู่ใน 88 ประเทศ

J-HOPE COLLABORATION
คอลลาบอเรชันล่าสุดระหว่าง Human Made และ J-Hope หนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ระดับโลก BTS กลายเป็นกระแสทันทีที่เปิดตัว โดยศิลปินหนุ่มได้ร่วมออกแบบคอลเล็กชันพิเศษในชื่อ “Human Hope” ซึ่งผสานเอกลักษณ์ของ Human Made เข้ากับลุคสดใสสนุกสนานตามสไตล์ของ J-Hope อย่างลงตัว จุดเด่นของคอลเล็กชันนี้คือ โลโก้กระรอกแบบใหม่ ที่ถูกออกแบบขึ้นเฉพาะกิจสำหรับโปรเจกต์ครั้งนี้ โดยใช้เป็นสัญลักษณ์หลักในการเล่าเรื่องและสร้างเอกลักษณ์ให้คอลเล็กชันดูโดดเด่นกว่าเดิม Human Hope ประกอบด้วยไอเท็มทั้งหมด 14 ชิ้น ครอบคลุมทั้งเสื้อผ้าและไลฟ์สไตล์ ไอเท็ม ไม่ว่าจะเป็นแจ็กเก็ต เสื้อยืด ฮูดดี้ สเวตเตอร์ ไปจนถึงของใช้สุดน่ารักอย่างหมอนอิง พรมเช็ดเท้า แก้วกาแฟ พวงกุญแจ และแหวน สำหรับการวางจำหน่าย คอลเล็กชันนี้เปิดขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ Human Made Apgujeong ในกรุงโซล และทางออนไลน์เท่านั้น ทำให้กลายเป็นหนึ่งในคอลแลบที่ทั้งแฟนแฟชั่นและแฟนคลับต่างตั้งตารอจับจองกันอย่างคึกคัก



