×

รมว.ยุติธรรม-ราชทัณฑ์ บุกตรวจเรือนจำพิเศษกทม. พบขบวนการเอื้อผู้ต้องขังจีนเทา ลอบพาหญิงจีนค้าประเวณี พบเจ้าหน้าที่เอี่ยว 20 ราย

โดย THE STANDARD TEAM
22.11.2025
  • LOADING...

วันนี้ (22 พฤศจิกายน) พล.ต.ท. รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ท. ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และพ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท. อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางมาเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เอื้อประโยชน์กลุ่มผู้ต้องขังชาวจีน

 

พล.ต.ท. รุทธพล เปิดเผยว่า ในการตรวจดูพื้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ใช้เวลาพอสมควรในการเข้าไปดูพื้นที่จริง เบื้องต้นจะให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษตั้งเป็นคดีสืบสวนพิเศษ

 

ด้าน พ.ต.ท. ประวุธ กล่าวว่า ตัวเองรับหน้าที่เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในวันที่ 1 ตุลาคม หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนต่อมา ตนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบของเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารเรือนจำ จากนั้นได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ ทั้งปลัดฯ และรัฐมนตรี กำชับมาว่าจะต้องให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนก่อน เพราะตอนที่รับเรื่องมาเป็นเพียงแค่การข่าว ตนใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในการเก็บข้อมูลสืบสวนสอบสวน

 

ก่อนจะได้ข้อมูลและมีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหาร ไปจนถึงระดับล่างของเรือนจำ รวมแล้วประมาณ 20 คน มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วยกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์ รวมถึงพบว่ามีหญิงชาวจีนเข้ามาในเรือนจำลักษณะค้าบริการทางเพศ จึงวางแผนเข้าไปตรวจสอบในวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เราไว้ใจได้

 

เมื่อเข้าตรวจค้นก็พบกับหญิงชาวจีน 2 คน อายุประมาณ 20 ต้นๆ หญิงชาวจีนคนหนึ่งอยู่ในห้องสองต่อสองกับผู้ต้องขังชาวจีน ส่วนหญิงชาวจีนอีกหนึ่งรายอยู่ระหว่างรอด้านบน ซึ่งตอนนั้นได้สอบปากคำหญิงชาวจีนทั้งสองคนให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มาขายบริการ แต่จากการสอบสวนเชื่อว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะหญิงชาวจีนทั้ง 2 คนไม่รู้จักคนที่มาพบเรา และได้พกถุงยางอนามัย รวมถึงชุดชั้นในติดตัวมาด้วย

 

ส่วนในวันที่เข้าไปตรวจค้นในห้องพบว่าหญิงชาวจีน และผู้ต้องขังชาวจีนแต่งกายเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีการปิดล็อกประตูถึงสองชั้นกว่าจะเข้าไปก็ใช้เวลาพอสมควร นอกจากนี้พบกล่องถุงยางและกระดาษทิชชูที่เปื้อนสารคัดหลั่ง พบคราบสารคัดหลั่งบนโซฟา รวมถึงยาเส้น และสุรา เราจึงเก็บข้อมูลตรงนี้มาเป็นพยานหลักฐาน เพื่อส่งตรวจยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

 

พ.ต.ท. ประวุธ กล่าวอีกว่า ในวันจันทร์ 24 พฤศจิกายน จะมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นเราได้ย้ายบุคคลที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ เพื่อให้คณะตรวจสอบได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด

 

ถึงแม้จะมีการสอบปากคำหญิงชาวจีนทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจในการควบคุมตัว เนื่องจากข้อเท็จจริงยังไม่แน่ชัดจึงปล่อยตัวชั่วคราวไป และคาดว่าทั้ง 2 คนจะเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้ว แต่เราก็มีสิทธิให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานไปยังตำรวจประเทศจีนขึ้นแบล็กลิสต์ไว้หากพบความผิด

 

ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ คือเวลาประมาณ 11.00 น. โดยกลุ่มแรกที่เข้ามาเป็นญาติผู้ต้องขัง ซึ่งปกติทุกวันอาทิตย์ทางเรือนจำไม่ได้เปิดให้เยี่ยมญาติ แต่ในวันที่เกิดเหตุกลับมีญาติผู้ต้องขังชาวจีนเข้าไปเยี่ยม หลังจากเยี่ยมเสร็จแล้วได้มีผู้หญิงที่เชื่อว่าเป็นผู้หญิงค้าประเวณีเข้ามา แต่ทั้งสองคนปฏิเสธ เราจึงต้องหาพยานหลักฐานเพื่อมายืนยันต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มผู้ต้องขังดังกล่าวเคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อนหรือไม่ พ.ต.ท. ประวุธระบุว่า นานเท่าไหร่ไม่ทราบ แต่จากการสืบสวนในช่วงเดือนพฤศจิกายน เชื่อว่ามี และเชื่อว่ามีหญิงชาวจีนค้าบริการเข้ามาในเรือนจำทุกวันอาทิตย์ ซึ่งห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องไว้ใช้รับรองผู้บังคับบัญชาที่มาตรวจเยี่ยมราชการภายในเรือนจำในห้องจะมีโต๊ะ โซฟา ตู้เย็น

 

พ.ต.ท. ประวุธ ระบุว่า ตอนนี้เรามีการเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดหมดแล้ว แต่ยอมรับว่ามีกล้องวงจรปิดบางส่วนถูกลบไปแล้ว สามารถกู้คืนมาได้บางส่วน ส่วนภาพน่าจะเป็นภาพที่เกี่ยวกับหญิงสาวที่เข้ามาภายในเรือนจำ แต่จะเข้ามาทำอะไรนั้นเราจะต้องทำการตรวจสอบ

 

ทั้งนี้ หญิงชาวจีนที่เรียกมาให้บริการจะเดินทางเข้าบริเวณประตูด้านหน้าที่เจ้าหน้าที่ใช้ปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำที่มีส่วนรู้เห็นและได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาพาเข้าไป หญิงชาวจีนจะขึ้นไปที่ห้องผู้บังคับบัญชาซึ่งอยู่บริเวณชั้นสอง ก่อนที่จะเดินทางเชื่อมของห้องผู้บังคับบัญชาลงไปยังห้องเกิดเหตุ

 

ส่วนใช้เงินจำนวนในการซื้อเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำขอตรวจสอบก่อน รวมถึงเส้นทางการเงินที่ได้ประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษมาร่วมตรวจสอบ ทั้งนี้ได้ย้ายผู้ต้องขังชาวจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเบื้องต้นไปแล้วสามคน ส่วนอีก 10 กว่าคนอยู่ที่แดนเดิม แต่ถ้าหากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็จะมีการย้ายเพิ่มเติม

 

พ.ต.ท. ประวุธ ย้ำว่า การที่ได้เข้ามาเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ มุ่งมั่นให้บ้านของตัวเองสะอาด อะไรที่ไม่ถูกต้องก็จะจัดการด้วยตนเอง ซึ่งมีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกขั้นตอน ข้าราชการส่วนใหญ่ของกรมราชทัณฑ์เป็นคนที่มีระเบียบวินัย รักษากฎหมาย มีเพียงบางส่วนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ฉะนั้นเราต้องเคลียร์บ้านให้สะอาด และยืนยันว่าทางกรมราชทัณฑ์ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising