×

​ผบ.ทร. ตั้งเป้าปี 69 เป็นปีแห่งความพร้อมของ กองทัพเรือ เร่งเสริมโดรน-Anti Drone ย้ำเรือฟริเกตต้องต่อในประเทศ

โดย THE STANDARD TEAM
20.11.2025
  • LOADING...
​ผบ.ทร. ตั้งเป้าปี 69 เป็นปีแห่งความพร้อมของ กองทัพเรือ เร่งเสริมโดรน-Anti Drone ย้ำเรือฟริเกตต้องต่อในประเทศ

วันนี้ (20 พฤศจิกายน) พล.ร.อ. ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานในพิธีทำบุญ เนื่องในวันกองทัพเรือประจำปี 2568 ว่า จากอดีตถึงปัจจุบัน 119 ปี มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การจัดองค์กรเพื่อสร้างความพร้อมเจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ ซึ่งในปี 2569 นี้ ได้ตั้งให้เป็นปีแห่งความพร้อมของกองทัพเรือ

 

ซึ่งมี 4 องค์ประกอบ คือ บุคคล ที่พยายามเสริมสร้างการฝึกเรียนรู้ให้สามารถสู้กับภัยคุกคามได้, วัตถุ ที่ได้ให้นโยบายในการพัฒนาเพื่อให้เท่าทันเทคโนโลยี เช่น การศึกษาแผนเรือจักรีนฤเบศร จะต้องทำแผนงานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ครบ ซึ่งเราทราบดีว่ายุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การรบใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่า, ทางยุทธวิธี และการบริหารจัดการ

 

ผบ.ทร. ย้ำด้วยว่า เรือรบยังมีความจำเป็นอยู่ เพราะเป็นฐานในการดำเนินการเข้าสู่พื้นที่ สามารถเข้าพื้นที่ข้าศึกได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเรือผิวน้ำ หรือดำน้ำ เพราะเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีความสำคัญ แต่ก็จะเสริมขีดความสามารถของเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับเข้าไป รวมทั้งหน่วยกำลังรบทางบกในระดับหมวด ซึ่งกำลังวางโครงสร้างอยู่โดยจะมีทั้ง UAV โดรน และ Anti Drone เพื่อสร้างความปลอดภัยในการลาดตระเวนของกำลังรบทางบก

 

ส่วนกองกำลังจันทบุรีและตราด มีการเตรียมความพร้อมมากแค่ไหน ในการรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ผบ.ทร. กล่าวว่า ตั้งแต่ปฏิบัติการตราดพิฆาตไพรีครั้งที่แล้ว เรายังมีกำลังอยู่เต็มพื้นที่ ส่วนที่ถอนกำลังไปแล้วก็กลับเข้าพื้นที่แล้ว สำหรับโดรนที่สนับสนุนการลาดตระเวนก็เข้าพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และปืนใหญ่ก็จัดแบบเต็มกำลัง คือจังหวัดละ 1 กองร้อยปืนใหญ่ มีทั้งกองร้อยปืน 155 มม. และกองร้อยปืน 105 มม. ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อรุกรานใคร แต่ทำเพื่อป้องกันอธิปไตยไทยให้มีความพร้อม ซึ่งได้มีการประสานแผนกับกำลังกองทัพภาคที่ 1 และ 2 อย่างใกล้ชิด

 

ผบ.ทร. ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการจัดหาเรือฟริเกตว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ยืนยันว่าในโครงการนี้จะต้องมี offset policy หรือการต่อเรือในประเทศ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนคืนทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขที่ถูกกำหนดเอาไว้

 

ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกแบบ โดยมีผู้บัญชาการกองเรือยุทธการเป็นประธาน และอยู่ระหว่างการร่าง TOR หากต้องทำการจัดหาเป็นแพ็กเกจ ร่วมกับลำที่ 2 ก็จะขอความกรุณาจากรัฐบาลในการพิจารณาอนุมัติจาก ครม. ต่อไป

 

“ผมขอยืนยันว่าการต่อเรือฟริเกตนั้น ต้องเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของกองทัพเรือ โดยกองทัพมีหน้าที่บำรุงรักษาและในการที่จะได้มาซึ่งเรือ ผมได้ดำเนินการและสั่งการแล้วว่า ผลประโยชน์ต้องกลับไปสู่ประชาชนมากที่สุด โดยต่อเรือภายในประเทศให้ได้สัดส่วนมากที่สุดด้วย” ผบ.ทร. กล่าว

 

ส่วนกรณีบ้าน 3 หลัง บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ที่ล้ำเขตแดนนั้น ผบ.ทร.กล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารทำตามคำสั่งเรารับคำสั่งไป 3 หลัง ก็ทำไป 3 หลัง แต่ครั้งนี้ถ้ามีการปฏิบัติก็จะดำเนินการเพิ่มเติม

 

ส่วนอดีตอาคารคาสิโนที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างล้ำมาเขตแดนไทย บริเวณรอยต่อเมืองทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา กับ บ.ท่าเส้น อำเภอเมือง จังหวัดตราด ตามหลักการ เมื่อเขาสร้างเขาก็ต้องรื้อ แต่ถ้าเขาไม่รื้อ และบอกให้เรารื้อ ก็ต้องเรียกร้องค่าใช้จ่ายจากเขา

 

ขณะที่ พล.ร.ต. ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีพื้นที่บ้าน 3 หลัง ทางกองทัพเรือยังคงห่วงใยและกังวล ภายหลังรื้อบ้าน 3 หลัง ได้ตรวจพบการวางกำลังเพิ่มเติมในพื้นที่เข้ามา มีการขุดคูเลตเพิ่ม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สูง แต่ฝ่ายไทยอยู่ด้านล่างจึงเข้าไปลำบาก โดยสิ่งที่ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ทำอยู่ จากความร่วมมือประชาชนจังหวัดตราด ได้ทำถนนเข้าไปประชิดเพื่อปฏิบัติการทางยุทธวิธี และจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน

 

ส่วนการผลักดันฝ่ายตรงข้ามนั้น เรายังคงใช้การเจรจา จากเบาไปหนักขึ้น ซึ่งมีการยื่นข้อเสนอไปหลายเรื่อง ถ้าสะดวกจะย้ายออกเรายินดีให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ขยับออกไป ซึ่งฝ่ายไทยไม่ต้องการสร้างแรงกระเพื่อมในพื้นที่ ให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่บานปลายไปมากกว่านั้น

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising