×

เจี้ยนชาโตเร็ว! จนต้องส่งแบรนด์ใหม่ ‘OH’POLLY’ บุกตลาดชาพรีเมียม ตั้งราคาขายเริ่ม 95 บาท พร้อมเร่งขยายสาขาให้ได้ 30 แห่งในต้นปีหน้า

19.11.2025
  • LOADING...
เจี้ยนชาโตเร็ว จนต้องส่งแบรนด์ใหม่ ‘OH’POLLY’ บุกตลาดชาพรีเมียม ตั้งราคาขายเริ่ม 95 บาท พร้อมเร่งขยายสาขาให้ได้ 30 แห่งในต้นปีหน้า

วันนี้ตลาดเครื่องดื่มชาในไทยยังคงร้อนแรงและกลายเป็นสมรภูมิการแข่งขันของผู้เล่นจำนวนมาก และหนึ่งในแบรนด์ที่โดดเด่นคือ ‘เจี้ยนชา’ ชาผลไม้พรีเมียมที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

 

สะท้อนจากผลประกอบการปี 2567 เจี้ยนชาทำรายได้ 78.46 ล้านบาท กำไร 1.8 ล้านบาท ปัจจุบันขยายสาขาครอบคลุมกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ความสำเร็จดังกล่าวนำไปสู่การต่อยอดสู่แบรนด์ใหม่ อย่าง ‘OH’POLLY’ ซึ่งผู้ก่อตั้งตั้งใจปลุกปั้นขึ้นเพื่อเสริมพอร์ตธุรกิจและเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว

 

THE STANDARD WEALTH มีโอกาสพูดคุยกับ ‘พลอย-พอลลี เฮสันต์’ ผู้ก่อตั้งของทั้งแบรนด์ ถึงเส้นทางการสร้างแบรนด์พรีเมียมและทิศทางที่จะอยู่รอดภายใต้การแข่งขันในตลาดชาที่นับวันยิ่งรุนแรงมากขึ้น

 

พลอยเล่าว่าก่อนเข้ามาสู่ธุรกิจเครื่องดื่มชา เธอเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจรถมือสอง และส่วนตัวได้เคยทดลองทำธุรกิจหลากหลายตั้งแต่แฟชั่นไปจนถึงเบเกอรี่ กระทั่งได้รู้จักกับเพื่อนชาวจีนที่ดำเนินธุรกิจร้านชาในจีน จึงมีความสนใจและได้เริ่มศึกษาตลาดอย่างจริงจัง จากนั้นใช้เวลาไม่นานก็ได้เปิดตัวแบรนด์ ‘เจี้ยนชา’ เข้ามาประเดิมตลาดในประเทศไทยเมื่อปี 2567

 

ด้วยความที่ตลาดชาเป็น Red Ocean จึงไม่จำกัดตัวเองแค่ในไทย แต่ได้ขยายไปเปิดในต่างประเทศ ทั้งออสเตรเลีย สิงคโปร์ สเปน และเตรียมบุกตลาดสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2569 โดยตั้งเป้าผลักดันให้เจี้ยนชากลายเป็น Global Brand ในอนาคต

 

จากนั้นไม่นาน เริ่มเห็นถึงศักยภาพของตลาดชาทั่วโลกที่มีมูลค่ากว่า 363 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสให้เปิดตัวแบรนด์ ‘OH’POLLY’ ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท โอ้ พอลลี่ จำกัด

 

จุดเริ่มต้นของ OH’POLLY ถือเป็นแบรนด์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเส้นทางวัฒนธรรมชายุโรปจนถึงชาสมัยใหม่ ครอบคลุมตั้งแต่จีน โปรตุเกส อังกฤษ ไปจนถึงเอเชีย จึงกำหนดโพซิชันนิงให้ OH’POLLY เป็นเหมือนตัวแทนหญิงสาวยุโรปที่มีความพรีเมียมและทันสมัย แตกต่างจากเจี้ยนชาที่สื่อภาพลักษณ์แบรนด์เป็นหญิงสาวเอเชีย ส่วนชื่อแบรนด์นั้นถูกออกแบบให้เป็นภาษายุโรปเพื่อสร้างการจดจำได้ง่าย

 

สำหรับ OH’POLLY ได้เปิดสาขาแรกที่สยามพารากอน มีเมนูชานม ชาใส และชานมทางเลือก ราคาเริ่มต้น 95–165 บาท เน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ โดยหลังเปิดให้บริการเพียง 3 สัปดาห์ มียอดขาย 300-400 แก้วต่อวัน จากนั้นจึงตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,000 แก้วต่อวัน

 

สำหรับแผนขยายสาขาต่อจากนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2566 เตรียมเปิด OH’POLLY เพิ่มอีก 30 สาขา ขยายทั้งโมเดลการลงทุนเองและแฟรนไชส์ โดยการลงทุนต่อสาขาเฉลี่ย 5-6 ล้านบาท ส่วนภายในร้านเน้นออกแบบให้ทันสมัย พรีเมียม เพื่อสอดรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการถ่ายภาพแชร์ลงโซเชียลได้

 

สเต็ปถัดไปจะขยายสู่ต่างประเทศ โดยจะเริ่มในไตรมาส 2 เช่น สิงคโปร์และสเปน ซึ่งจะไปในตลาดที่เจี้ยนชาปูทางไว้แล้ว โดยจะพัฒนาสูตรเครื่องดื่ม Local Menu ให้เข้ากับรสนิยมของแต่ละประเทศ และที่สำคัญประเทศที่จะเข้าไป ต้องเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูงและนิยมดื่มชาพรีเมียม เบื้องต้นวางเป้าหมายขยาย OH’POLLY ให้ได้ 1,000 แห่งทั่วโลก ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่า OH’POLLY จะขยายได้เร็วกว่าเจี้ยนชา ด้วยจำนวนเมนูที่กระชับ ระบบบริหารจัดการที่ง่าย และโมเดลร้านที่ออกแบบให้ขยายสาขาได้รวดเร็ว ไปได้ทั้งในศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์และสแตนด์อโลน

 

“ตลาดชาในประเทศไทย ยิ่งการแข่งขันสูง ตลาดก็ยิ่งโต และด้วยกลยุทธ์ของ OH’POLLY ที่เน้นขับเคลื่อนแบรนด์ด้วยสตอรี วัฒนธรรมชา และดีไซน์ของเครื่องดื่มที่เน้นความเป็นพรีเมียม ซึ่งมีความต่างจากคู่แข่งในตลาด ส่วนการเข้าไปบุกตลาดต่างประเทศ แม้เผชิญความท้าทาย ทั้งการหาพื้นที่บวกกับต้นทุนแรงงานที่สูง แต่บริษัทมองว่าสิ่งเหล่านี้ถ้าเราผ่านไปได้ จะยิ่งช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์และในระยะยาวจะทำให้คู่แข่งตามเราได้ยาก” พลอยย้ำ

 

พร้อมทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันบริษัท เจี้ยนชา จำกัด ในประเทศไทย อยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิงที่ฮ่องกง ในอนาคตมีแผนจะรวมบริษัท โอ้ พอลลี่ จำกัด เข้าไปด้วย เพื่อให้ทั้งสองแบรนด์เติบโตไปพร้อมๆ กัน จากนั้นจะเตรียมตัวนำทั้งสองบริษัทเข้าไป IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising