ดร.เอกนิติ เร่งปลดล็อกการลงทุนค้างท่อ คาดดึง FDI เข้ามาลงทุนจริงกว่า 3 แสนล้านใน 4 เดือน พร้อมชง ‘BOI Fast Pass’ เข้า ครม.เศรษฐกิจ 24 พ.ย.นี้ เตรียมตั้ง ‘กองทุน Individual Saving Account’ ฟื้นวอลลุ่มตลาดทุน ดึงเงินออมไทยกลับเข้าตลาด
วันนี้ (19 พฤศจิกายน) ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า รัฐบาลเตรียมนำมาตรการ ‘Fast Pass’ เข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเร่งปลดล็อกขั้นตอนอนุญาตที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ที่ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
ดร.เอกนิติระบุว่า ประเทศไทยยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนส่วนใหญ่ แม้ว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของทั้งโลกจะชะลอตัวลง โดยชี้ว่าตลอด 9 เดือนแรกของปี มีผู้ยื่นคำขอลงทุนผ่าน BOI แล้วกว่า 1.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 93% ขณะที่โครงการซึ่งพร้อมลงทุนทันที มีอยู่ราว 4.7 แสนล้านบาท แต่ยังติดขั้นตอนขอใบอนุญาตหลายหน่วยงาน เช่น วีซ่าแรงงานทักษะสูง ไฟฟ้า น้ำ และระบบต่าง ๆ
“เขารออยู่แล้ว เหมือนกับรถยนต์รอจ่ายค่าทางด่วน ถ้าเราปลดล็อกให้เขาผ่านไปได้เร็วขึ้น มันจะทำให้เม็ดเงินไหลเข้าประเทศไทย” ดร.เอกนิติกล่าว
ดร.เอกนิติย้ำว่า ด้วยระยะเวลาแค่ 4 เดือน รัฐบาลจะเน้นไปที่โครงการขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าสูงกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีมากถึง 70 โครงการ และปัจจุบัน รัฐบาลได้หารือครบทุกโครงการแล้ว ดังนั้นหาก Fast Pass สามารถเดินหน้าได้ตามกรอบจะทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าประเทศได้เร็วขึ้น โดยคาดว่า จะช่วยให้เกิดเม็ดเงินใหม่ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาทในปีหน้า ซึ่งเป็นการปลดล็อกโครงการค้างท่อกว่า 3 แสนล้านได้ทันที
สำหรับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ดร.เอกนิติระบุว่า เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแล้วในไตรมาส 4 ขณะที่ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม แม้จะยังไม่กลับมาฟื้น แต่ดร.เอกนิติคาดว่าการปลดล็อกกระบวนการลงทุนจะช่วยให้ตัวเลขดีขึ้นได้ในระยะถัดไป
จ่อตั้ง ‘กองทุน Individual Saving Account’ ฟื้นวอลลุ่มตลาดทุน ดึงเงินออมไทยกลับเข้าตลาด
นอกจากนี้ สำหรับตลาดทุนไทยที่กำลังเผชิญภาวะ ‘วอลลุ่มหดหาย’ ดร.เอกนิติ ระบุว่า ขณะนี้ รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการหารือในการจัดตั้งกองทุน ‘Individual Saving Account’ เพื่อเสริมสภาพคล่องในตลาด โดย “ให้คนไทยเอาเงินออมมาลงทุนในตลาดทุนมากขึ้น” ซึ่ง ดร.เอกนิติ ระบุว่าตั้งใจจะทำให้เสร็จภายในปีนี้


