×

Airbus คาดการณ์ เอเชียแปซิฟิกจะต้องการเครื่องบินใหม่ 19,560 ลำในอีก 20 ปีข้างหน้า

โดย THE STANDARD TEAM
15.11.2025
  • LOADING...
Airbus คาดการณ์ เอเชียแปซิฟิกจะต้องการเครื่องบินใหม่ 19,560 ลำในอีก 20 ปีข้างหน้า

Airbus คาดการณ์ตลาดภูมิภาคล่าสุด (15 พฤศจิกายน) โดยระบุว่าอุตสาหกรรมการบินในเอเชียแปซิฟิกจะต้องการเครื่องบินใหม่จำนวน 19,560 ลำในช่วง 20 ปีข้างหน้า จำนวนนี้คิดเป็น 46% ของความต้องการเครื่องบินใหม่ทั่วโลกที่คาดว่าจะอยู่ที่ 42,520 ลำในช่วงเวลาเดียวกัน

 

อานันท์ สแตนลีย์ ประธาน Airbus ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้นำเสนอการคาดการณ์ล่าสุดในงานประชุมใหญ่ประจำปีของสมาคมสายการบินแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Association of Asia-Pacific Airlines: AAPA) ณ กรุงเทพมหานคร โดยเน้นย้ำถึงการเติบโตต่อเนื่องและความสำคัญของภูมิภาคในตลาดการบินโลก

 

การคาดการณ์สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงจีนและอินเดีย สะท้อนให้เห็นการขยายฝูงบินอย่างต่อเนื่องของภูมิภาคนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น คาดว่าภูมิภาคจะเติบโตเฉลี่ย 4.4% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 3.6%

 

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนความต้องการเครื่องบินลำตัวกว้าง (Widebody) เช่น เครื่องบิน A330neo และเครื่องบินตระกูล A350 โดยคาดว่าจะต้องการเครื่องบินประมาณ 3,500 ลำ โดยคิดเป็น 43% ของความต้องการกลุ่มเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ทั่วโลก ขณะเดียวกันคาดว่า ภูมิภาคนี้จะต้องการเครื่องบินทางเดินเดียว (Single-aisle) ประมาณ 16,100 ลำ เช่น เครื่องบิน A220 และเครื่องบินตระกูล A320neo เพื่อรองรับเส้นทางบินระยะสั้นถึงกลาง

 

Airbus ประเมินว่า เกือบ 68% ของการส่งมอบเครื่องบินใหม่จะเป็นการขยายฝูงบิน ส่วนอีก 32% จะเป็นการทดแทนเครื่องบินรุ่นเก่า ซึ่งช่วยสนับสนุนความพยายามที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ โดยเครื่องบินลำตัวกว้างรุ่นใหม่ของ Airbus สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้ทันทีถึง 25% พร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามไปด้วย

 

ในส่วนของการขนส่งสินค้าทางอากาศ คาดว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีฝูงเครื่องบินขนส่งสินค้าประมาณ 850 ลำ คิดเป็นราว 1 ใน 3 ของฝูงบินขนส่งสินค้าทั่วโลก โดยประมาณ 250 ลำจะเป็นเครื่องบินผลิตขึ้นใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินลำตัวกว้าง สะท้อนถึงความต้องการขนส่งทางอากาศที่แข็งแกร่งและเพิ่มขึ้นในภูมิภาค

 

เครื่องบิน A350F รุ่นใหม่ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากโครงสร้างเครื่องบิน A350 ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจะสามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ด้วยประสิทธิภาพการบินที่สูง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และประสิทธิภาพด้านต้นทุนที่ดีที่สุดในประเภทเดียวกัน นอกจากนี้ A350F ยังเป็นไปตามมาตรฐานการปล่อยก๊าซล่าสุดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในตลาดเครื่องบินขนส่งสินค้าขนาดใหญ่

 

ในตลาดขนส่งผู้โดยสาร เครื่องบิน A350 ได้กลายเป็นผู้นำด้านการบินระยะไกลจากภูมิภาค โดยมีเครื่องบิน A350 ประมาณ 315 ลำให้บริการในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เครื่องบินเหล่านี้ให้บริการในเส้นทางบินที่ยาวที่สุดในโลก รวมถึงการบินตรงจากสิงคโปร์ไปยังนิวยอร์ก

 

ในขณะเดียวกัน กระบวนการทดแทนเครื่องบิน A330ceo กำลังดำเนินอยู่ โดยมีเครื่องบิน A330ceo ประมาณ 550 ลำให้บริการในภูมิภาค เครื่องบิน A330neo ถูกวางตำแหน่งเป็นตัวเลือกทดแทนโดยธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้สายการบินเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น พร้อมทั้งมีความเหมือนกันทั้งในการฝึกอบรมนักบินและการดำเนินงานทางเทคนิคระหว่างสองรุ่น

 

อานันท์ สแตนลีย์ ประธาน Airbus ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นของการเติบโต ขับเคลื่อนด้วยความต้องการเดินทางทางอากาศและโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง Airbus มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรกับสายการบินในภูมิภาคนี้ เพื่อนำเสนอฝูงบินที่ทันสมัยและยั่งยืน”

 

ภาพ: Airbus

อ้างอิง:

  • Airbus
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising