Grounding คือเทคนิคที่ช่วยดึงใจกลับมาสู่ปัจจุบันในวันที่รู้สึกวุ่นวายหรือคิดเยอะเกินไป จุดสำคัญไม่ใช่การพยายาม “หยุดความคิด” แต่คือการให้ตัวเองกลับมาอยู่กับประสาทสัมผัส ผ่านสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างอ่อนโยน ซึ่งดีต่อระบบประสาทอย่างมาก เพราะทำให้ร่างกายรับรู้ว่าตอนนี้เราปลอดภัย ไม่ต้องวิ่งหนี ไม่ต้องสู้ เพียงแค่
“อยู่ตรงนี้” ก็เพียงพอแล้ว
1. สัมผัสสิ่งรอบตัว
ลูบผิวผ้า แตะขอบโต๊ะ หรือจับแก้วน้ำแล้วสังเกตอุณหภูมิและพื้นผิว การรับรู้สัมผัสตรงหน้าช่วยพาใจออกจากความคิดฟุ้ง และค่อยๆ สงบลง
2. หายใจแบบ 4-4-6
หายใจเข้า 4 วินาที กลั้นไว้ 4 วินาที แล้วปล่อยลมหายใจออกยาวๆ 6 วินาที ทำซ้ำประมาณ 5 รอบ จะช่วยให้ระบบประสาทปรับเข้าสู่โหมดพักฟื้นได้ทันที
3. ใช้ประสาทสัมผัสเชื่อมต่อกับธรรมชาติ
ลองถอดรองเท้าแล้วใช้เท้าเปล่าเหยียบผืนหญ้า รับรู้พื้นผิวที่นุ่มหรือเย็นใต้ฝ่าเท้า ใช้ปลายนิ้วแตะใบไม้เบาๆ ฟังเสียงขยับแผ่วๆ หรือลองหยุดนิ่งแล้วสังเกตสายลมที่สัมผัสผิวกาย เทคนิคนี้ช่วยให้ร่างกายและใจกลับเข้าสู่จังหวะธรรมชาติ ลดความฟุ้ง และทำให้เรารู้สึก grounded ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
4. เดินช้าๆ แล้วฟังเสียงฝีเท้า
ลองเดินช้าลงนิดหนึ่ง รับรู้เสียงฝีเท้าแต่ละก้าว จะช่วยให้ร่างกายเชื่อมต่อกับปัจจุบัน และลดความคิดที่ผุดขึ้นไม่หยุด
5. วางมือบนหน้าอกแล้วบอกตัวเองว่า “ฉันปลอดภัย”
เป็นวิธีที่อ่อนโยนมากสำหรับวันที่ใจอ่อนล้า เพียงวางมือบนหน้าอกเบาๆ รับรู้จังหวะหัวใจ แล้วบอกตัวเองหนึ่งประโยคสั้นๆ จะช่วยให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงและอบอุ่นขึ้นทันที
ในวันที่รู้สึกหนัก เหนื่อย หรือเหมือนทุกอย่างวิ่งเร็วเกินไป Grounding คือการเตือนเบาๆ ว่าเราไม่จำเป็นต้องเร่งตัวเองให้วิ่งทันทุกอย่าง เราเพียงต้องกลับมารับรู้ว่าร่างกายและหัวใจของเรากำลังต้องการพัก และการพักก็เริ่มต้นได้ทุกที่ ทุกเวลา แค่กลับมาหาตัวเอง













