วันนี้ (12 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, พล.ท. อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังอ่างทองและพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลาง โดยเดินทาง ด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากพล ม.2 มาที่โรงเรียนป่าโมกข์วิทยาภูมิ จังหวัดอ่างทอง ซึ่งระหว่างทางได้บินวนดูสถานการณ์น้ำจากมุมสูง พร้อมรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์น้ำ
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ลงจากเฮลิคอปเตอร์ ที่โรงเรียนป่าโมกข์วิทยาภูมิ และถือเป็นจุดแรกของการลงพื้นที่วันนี้ เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
นายกรัฐมนตรีกล่าว ขอบคุณด้วยความเป็นห่วงด้วยหัวใจ เดินเข้ามาพ่อแม่พี่น้องยังคงทักทายปรบมือให้กำลังใจ จริงๆ แล้วตนต้องคลานเข้ามาเพื่อที่จะกราบขออภัยพ่อแม่พี่น้องที่ทำให้ต้องผจญกับความยากลำบากจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเราจะไปโทษธรรมชาติอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะเราเป็นรัฐบาล เราต้องมีความรับผิดชอบในการบริหารสถานการณ์ให้กับพ่อแม่พี่น้องให้ดีที่สุด
ตนจึงได้ขอให้ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็น สส.อ่างทองด้วย ว่าในช่วงน้ำท่วมถ้าไม่จำเป็นให้ทำงานจากอ่างทอง ไม่ต้องทิ้งพ่อแม่พี่น้อง ยกเว้นวันสำคัญจริงๆ เช่นการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่หลังจากนั้นให้รีบกลับมาดูแลแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง ใช้เวลาตรงนี้ให้มากที่สุด ซึ่งตนเข้าใจดีว่าเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นความทุกข์เรื้อรังของพวกเราในฐานะที่เป็นคนลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วยกัน ทรัพย์สินต้องเสียหาย พี่น้องต้องย้ายของหนีน้ำ ความรู้สึกต้องอยู่ในสภาวะน้ำท่วม
“สส. แบด บอกผมตลอดว่าตั้งแต่หัวหน้ามาครั้งที่แล้วน้ำยังไม่ลง พวกผมต้องทำทุกวิธีทางที่จะทำให้มีการระบายน้ำให้มากที่สุด ขอให้พี่น้องมั่นใจว่าเราได้ยินทุกคำพูดพยายามหาหนทางช่วยเหลือ ทุกหนทางที่จะทำได้ ผมได้ตัดสินใจว่าในพื้นที่อ่างทองนอกจากบ้านเรือนพี่น้องแล้วที่ถูกสถานการณ์น้ำท่วม รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณผู้ประสบภัย งบประสบภัยมาช่วยหลังคาเรือนละ 9,000 บาท อันนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล อย่างที่เรียน 90,000 บาท 900,000 บาท ถ้าพี่น้องแลกได้คงไม่เอาหรอกครับ ทุกท่านไม่ต้องการให้มีมากกว่า ต้องการใช้ชีวิตประกอบทำอาชีพด้วยความเป็นปกติสุข”
“หลายครอบครัวในอ่างทอง เป็นเจ้าของนาเจ้าของไร่ เสียสละนาไร่เป็นพื้นที่รับน้ำ สูญเสียโอกาสผลิตพืชผลทางการเกษตรทำไร่ทำนา และยังต้องเป็นผู้ที่เสียสละในการรับน้ำให้น้ำมาท่วมในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ให้ไปกระทบทำความเสียหายในเขตเมืองที่ถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจ ให้ได้รับความเสียหาย ตรงนี้ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่าน โดยเฉพาะเจ้าของไร่นาที่ยอมสละไร่นาเป็นพื้นที่รับน้ำ” อนุทิน กล่าว
อนุทินกล่าวว่าได้หารือกับภราดร และสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงอุดมการศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ขออนุญาตใช้อำนาจความเป็นนายกรัฐมนตรี จะทดแทนโอกาสที่พ่อแม่พี่น้อง ชาวไร่ชาวนาที่สละพื้นที่ไร่นาเลือกสวนเป็นพื้นที่รับน้ำ จะขออนุญาตเอางบประมาณที่กำกับดูแลอยู่มาดูแล รายเดือนจนกว่าน้ำจะหมดไป
ปกติ 2 เดือน 3 เดือนไม่เป็นไร แต่นี่ 4 เดือนแล้วเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องมาเยียวยาพวกท่าน ขอให้ภราดรเร่งนำเสนอเพื่ออนุมัติโดยเร็ว และไม่ใช่เฉพาะจังหวัดอ่างทองแต่เป็นทุกที่ที่ชาวบ้านพี่น้องชาวเกษตรกรชาวไร่ชาวนาได้สละพื้นที่ของตัวเองให้เป็นพื้นที่รับน้ำ และทำให้ตัวเองสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้ในการผลิตพืชผลทางการเกษตร
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่าตนเองได้ สั่งการให้หน่วยงานทุกระดับลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องเต็มกำลัง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยที่อยู่ในกำกับการดูแลของตน หน่วยกู้ภัย การป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจะอยู่ในพื้นที่เพื่อคลายทุกข์ บรรเทาทุกข์ จัดหาที่พักชั่วคราว และจัดหาของกินของใช้ สิ่งของที่จำเป็นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ให้พ่อแม่พี่น้องสามารถดำรงชีวิตได้ท่ามกลางช่วงที่ต้องลำบากจากการคุกคามของภัยธรรมชาติ แล้วหวังว่าใกล้สิ้นเดือนปริมาณน้ำฝนทั้งหลายจะเบาบางลงไป ได้มีการวางแผนร่วมกันทำงานเป็นทีม ทั้งสำนักทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการที่จะหาหนทางระบายน้ำ เปิด-ปิดประตูระบายน้ำ และจัดการเส้นทางเดินของน้ำให้ส่งผลกระทบพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด
อนุทินกล่าวว่า ต้องกราบขอบพระคุณพี่น้องทุกคนที่ให้ขวัญและกำลังใจ ทหารตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วยให้ข้อมูลข่าวสารให้เขาทำงาน เข้าใจดีเสียงกรนเสียงด่าของพ่อแม่พี่น้องเพราะมีทุกข์ ท่านระบายใส่พวกตน พวกเราพร้อมที่จะเป็นที่พึ่ง เรารับทราบดี บางคนอึดอัดอยากระบายระบายมาได้เลย ตนดูใน YouTube ต้องชื่นชม สส. แบด สส. แชมป์ ที่ขึ้นรถอีแต๋นรถบรรทุกเยี่ยมพี่น้องที่ประสบภัย บางครั้งโดนเสียงบ่นบางครั้งโดนเสียงด่า แต่ทั้งสองคนยังสำนึกตลอดเวลาว่า เพราะเลือกชีวิตที่จะอยู่เป็นคนรับใช้ของพี่น้องประชาชนแล้ว เพราะฉะนั้นเสียงดาเหล่านี้รับฟังและไปหาหนทางแก้ไข ถือเป็นมงคลหูของพวกเขา เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องรับฟัง ไม่มีตอบโต้ใดๆ
นอกจากนำไปคิดและแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ แก้ปัญหาให้พี่น้องทุกคน เสียงของทุกคนบนรถปิคอัพคันนั้นดังถึงผม หลายครั้งด้วย เพราะผมต้องฟังหลายๆ เที่ยว ผมต้องคอยดูว่ารัฐมนตรีแบบนี้จะตบะแตกหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าไม่ ขอเสียงปรบมือให้หน่อย เขานิ่ง เขาฟัง และรู้ว่าในใจอกแทบแตก ในใจร้อนรน แต่แสดงอาการที่อึดอัดออกมาให้พี่น้องเห็นไม่ได้ เขาต้องเป็นที่รับอารมณ์รับความเดือดร้อน ใส่ไปเลยครับ วันนี้เป็นรัฐมนตรีเลยใส่เลยครับ รับได้ แล้วเดี๋ยวเขาจะมาระบายกับพวกผมเอง พวกผมมีหน้าที่หาทางออกหาทางแก้ไขให้พ่อแม่พี่น้อง และนี่คือสาเหตุที่พวกเรารีบมาในวันนี้ จริงๆ จะมาตั้งแต่เมื่อวานแต่มีเรื่องทหารเหยียบกับระเบิดที่ชายแดนเขมร จึงขออนุญาตไปเยี่ยมทหารก่อน เพราะตรงนี้สั่งให้รัฐมนตรีแบบมาดูแลพี่น้องอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรีระบุว่า เมื่อเช้าก็ได้ลงนามในคำสั่งนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีให้ดูแลพื้นที่เป็นจังหวัดเป็นโซนๆ การช่วยเหลือทั้งหลายพวกเราทุกคนอยู่ที่นี่ ภราดรกำกับสำนักงบประมาณอยู่แล้ว กำกับดูแลสำนักทรัพยากรน้ำอยู่แล้ว ตนเป็นนายกรัฐมนตรีกำกับดูแล กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากร กระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทย ทุกกระทรวงที่จะร่วมงานกันช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้อง วันนี้ขอให้มั่นใจว่าครม. ทุกคนตั้งแต่หัวยันท้าย รับทราบดีถึงความลำบากของพ่อแม่พี่น้อง
วันนี้มาหลายคน ศักดาก็มา สส. กาญจนบุรีอยู่ปกป้องคนไทยไม่ต้องสั่งเลย พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมก็มา ไม่ต้องสั่งรัฐมนตรีทุกคนถูกผมใส่หูทุกวันว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก เดือนธันวาคมเป็นเดือนแห่งความสุข ต้องให้ญาติมาเยี่ยมพี่น้องในช่วงปีใหม่ ดังนั้นในช่วงนี้จะต้องดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องทุกคน ทุกคนมีประสบการณ์รับมือสถานการณ์น้ำท่วมอยู่แล้ว วันนี้ของที่ได้รับไม่ต้องขอบคุณเพราะเป็นของพ่อแม่พี่น้องน้อยไปด้วยซ้ำ แต่ขอให้พ่อแม่พี่น้องได้รับทราบว่าพวกเราไม่ทอดทิ้งกัน และไม่มีคำว่าขาดแคลน คนที่ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้รัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ เดี๋ยวจะต้องเร่งเรื่องเงินช่วยเหลือมาให้ถึงมือพ่อแม่พี่น้องให้เร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรียังสอบถามว่า ใครลงคนละครึ่งพลัสหรือไม่ ได้บัตรในสวัสดิการหรือไม่ ให้ยกมือขึ้น ทุกคนที่ลงได้ขอร้องให้ไปลงทะเบียน ถ้าตกหล่นสิ้นปีจะมีเฟส ถ้าตกเฟส 2+ รอบแรกคืนไปให้ด้วย คนที่อยู่ในเฟสรอดอยู่แล้วเฟส 2 ก็จะได้ตามปกติ พวกตนมีความกังวลใจมาก ขอกลับไปช่วยเหลือพี่น้องให้มากที่สุดเท่าที่จะช่วยได้ ขอพบปะเท่านี้ก่อน เดี๋ยวจะไปดูเขื่อนแล้วจะไปอำเภออื่นอีก หรือถ้ามันจะพยายามทำทุกอย่าง ร้องขออภัยอีกครั้ง และยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนแบบนี้ขึ้นอีก
ก่อนเดินไปดูพนังกั้นน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับโรงเรียนป่าโมกวิทยา โดยได้นำมือไป วัดปริมาณน้ำ จากขอบของพนัง พบว่าเหลือเพียงฝ่ามือเดียวก็จะล้นขึ้นมาแล้ว และยังได้นำมือไปกวักน้ำขึ้นมา แล้วพูดว่าน้ำยังใสอยู่
ขณะที่ พงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง บอกกับนายกรัฐมนตรีว่ายังสามารถนำกระสอบทรายมาวางกั้นเพิ่มเติมบนขอบผนังกั้นน้ำได้อีก 2-3 ชั้น ก่อนจะรายงานว่าตอนนี้มีการปล่อยน้ำ ผ่านมา 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงคิดว่าสถานการณ์ตรงนี้ยังเอาอยู่ และ คิดว่าถ้าปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พนังกั้นน้ำตรงนี้ยังรับได้








