×

ตร. แจงปม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยันไม่ได้เลือกปฏิบัติ การดำเนินการทางวินัยเป็นไปตามกฎหมายและพยานหลักฐานที่ต่างกัน

โดย THE STANDARD TEAM
11.11.2025
  • LOADING...
ตร. แจงปม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยันไม่ได้เลือกปฏิบัติ การดำเนินการทางวินัยเป็นไปตามกฎหมายและพยานหลักฐานที่ต่างกัน

วันนี้ (11 พฤศจิกายน) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยสำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) ได้ชี้แจงประเด็นที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต รอง ผบ.ตร.) กล่าวหาว่ามีการเลือกปฏิบัติในการดำเนินการทางวินัยระหว่างกรณีของตนเองกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยยืนยันว่าการดำเนินการทั้งสองกรณีเป็นไปตามหลักกฎหมายและข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

กมค. ได้สรุปความแตกต่างในประเด็นหลัก ดังนี้:

 

1. ผู้มีอำนาจสั่งการทางวินัยต่างกันตามกฎหมาย: ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 105 กำหนดให้ ผบ.ตร. เป็นผู้มีอำนาจสั่งการทางวินัยกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ (ตำแหน่งรอง ผบ.ตร.) แต่กรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ (ตำแหน่ง ผบ.ตร.) ผู้มีอำนาจสั่งการทางวินัยคือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งการที่ผู้มีอำนาจต่างกันจึงเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด มิใช่การเลือกปฏิบัติ

 

2. ความชัดเจนของพยานหลักฐาน:

 

  • กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์: มี พยานหลักฐานชัดเจนและรุนแรง ถึงขั้นมีคดีอาญาที่ สน.เตาปูน และมีหมายจับจากศาลอาญา ทำให้ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
  • กรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์: ยังอยู่ระหว่างการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 378/2568 ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกก่อนพิจารณาว่าจะดำเนินการทางวินัยหรือไม่

 

3. หลักเกณฑ์การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน: การจะสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ มาตรา 131 ต้องเข้าเงื่อนไข 2 ประการ คือ 1) ต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวน/ต้องหาคดีอาญา และ 2) คดีมีความซับซ้อนจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่ง กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าเงื่อนไขทั้งสองข้อ จึงถูกสั่งให้ออกไว้ก่อน แต่ กรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังไม่เข้าเงื่อนไข เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

กมค. ชี้แจงถึงผลการดำเนินการที่แตกต่างกันว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกลงโทษ ไล่ออกจากราชการ โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พ้นจากราชการเนื่องจาก เกษียณอายุราชการตามปกติ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567

 

ดังนั้น การดำเนินการทางวินัยทั้งสองกรณีจึงเป็นไปตามหลักกฎหมายและข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน โดยผู้มีอำนาจตามกฎหมายได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาจากพยานหลักฐานและความร้ายแรงของการกระทำในแต่ละกรณี ยืนยันว่ามิใช่การเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด และพร้อมที่จะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมในภายหลัง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising