วันนี้ (9 พฤศจิกายน) มีรายงานว่า กองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อยู่ระหว่างนำเรียนอธิบดี DSI เพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติให้ทำการสอบสวนกรณีปรากฏข้อเท็จจริงว่า มารดาสัญชาติไทยพาเด็กหญิงสัญชาติไทยไปบังคับค้าประเวณีในประเทศญี่ปุ่น เหตุเกิดเมื่อประมาณเดือนกันยายน 2568 เป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมมีหนังสือเรียนแจ้งไปยังผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรับทราบร่วมกัน
ตามขั้นตอน หากอธิบดี DSI ได้รับคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว DSI จะเสนอไปยังอัยการสูงสุดเพื่อแจ้งเรื่องความผิดนอกราชอาณาจักร จากนั้น อัยการสูงสุดจะได้พิจารณามอบหมายการดำเนินการต่อไป ต่อมาจะเข้าสู่ขั้นตอนการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อ DSI จะได้ไปรวบรวมพยานหลักฐาน พยานวัตถุ ขอคำให้การในส่วนของเด็กหญิงผู้เสียหายและผู้กระทำความผิดที่ทางการญี่ปุ่นได้ดำเนินการไว้แล้ว
โดย DSI จะได้นำมาขยายผลตรวจสอบดูว่า มีลักษณะการกระทำเป็นขบวนการหรือไม่ มีผู้เป็นนายหน้าคอยช่วยเหลือหรือไม่ ที่ไม่ใช่เป็นเพียงการดำเนินการของแม่ของเด็กหญิงชาวไทยรายนี้เพียงคนเดียว และเป็นขบวนการที่ทำต่อเนื่องอยู่ในละแวกนั้นมาก่อนหรือไม่ รวมถึงเด็กหญิงไทย 12 ปีรายนี้อาจจะไม่ใช่กรณีแรกของขบวนการดังกล่าวก็เป็นได้
ส่วนกรณีที่ทางการไต้หวันสามารถจับกุมแม่ชาวไทยของเด็กหญิงได้แล้วนั้น จะเป็นผู้ต้องหาหรือสามารถดำเนินคดีได้เลยหรือไม่ DSI จะต้องไปดูพยานหลักฐานที่ทางการญี่ปุ่นได้รวบรวมไว้ก่อน เพราะตอนนี้มีเพียงการนำเสนอข่าวสารต่างๆ เท่านั้น แต่การสืบสวนสอบสวน จะต้องอาศัยหลักฐานวิทยาศาสตร์เพื่อนำเสนอต่อศาล และเมื่อมีความชัดเจนแล้วจะได้ใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 หรือ MLAT ประสานขอพยานหลักฐานทั้งหมดที่ทางการญี่ปุ่นดำเนินการมาใช้ไว้ในแฟ้มคดีของ DSI ต่อไป
นอกจากนี้ DSI จะต้องตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศของแม่ของเด็กหญิงชาวไทยรายนี้ ว่ามีประวัติการเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่นมากน้อยเพียงใด เดินทางไปเมืองใดบ้าง และไปยังประเทศอื่นๆ ด้วยหรือไม่ ไปนานกี่วัน มีวัตถุประสงค์การเดินทางอย่างไร รวมถึงการไปทำงานที่ร้านนวดยังสถานที่เกิดเหตุ มีประวัติอย่างไร เคยไปทำงานมาก่อนหรือไม่ หรือเป็นการทำงานที่นี่ครั้งแรก เพราะตามรายงาน เจ้าตัวไปด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เพื่อจะได้นำมาใช้ดูในส่วนของเจตนาพฤติการณ์
เบื้องต้นในวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้ จะมีผู้แทนจาก DSI ได้เข้าหารือกับสถานทูตญี่ปุ่นก่อน เพื่อประสานข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบันทึกสอบคำให้การของเด็กหญิงไทยวัย 12 ปี และข้อมูลอื่นๆ


