หุ้น MRDIYT หรือ บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ที่มีสาขามากที่สุดในไทย
ครอบคลุม 77 จังหวัด เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก (5 พฤศจิกายน)
เปิดการซื้อขายที่ 7.05 บาท ต่ำกว่าราคาจองซื้อ -18% จากราคา IPO ที่ 8.60 บาท
ล่าสุดเวลา 12.00 น. ราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 8.45 บาท ลดช่วงของการติดลบมาเหลือ -1.74% จากราคา IPO ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.1 พันล้านบาท
ปัจจุบัน MRDIYT ประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ภายใต้แบรนด์ “MR. D.I.Y.” ที่มีสาขามากที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย เริ่มดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 2559 ปัจจุบันมีร้านค้า 1,027 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ครบทุกสิ่งในทุกวัน ด้วยราคาถูกคุ้มเสมอตามพันธกิจ “Always Low Prices” ด้วยการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง และสินค้าของบุคคลภายนอก บริษัทมีสินค้าหลากหลายกว่า 16,000 รายการ ครอบคลุม 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์แต่งบ้าน อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา ของเล่น และสินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ
มั่นใจเป็นหุ้นเติบโต รายใหญ่-VI แห่ซื้อ
พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) กล่าวถึงประเด็นเรื่องความเชื่อมั่นต่อหุ้น MRDIYT โดยมองว่า การนำหุ้น MRDIYT เข้าเทรดในช่วงตลาดผันผวน นักลงทุนต้องศึกษาการเติบโตของธุรกิจ และประเมินความเสี่ยง อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าหุ้น MRDIYT จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) เพราะนำธุรกิจเข้าเทรดในช่วงที่ยังไม่ถึงจุดพีค มีแผนการเติบโตที่ชัดเจน และผลประกอบการที่เติบโตมากกว่า 20% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ราคาหุ้นซื้อขายในตลาดวันแรก ที่ต่ำกว่าราคาเสนอขาย IPO เป็นโอกาสของนักลงทุนรายย่อย ในการซื้อหุ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลง ทั้งนี้คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนคุณค่า (VI) ทำให้ราคาปรับดีขึ้น
จ่อสร้างคลังสินค้า 160 ไร่ รับการขยายสาขา
สำหรับแผนการเติบโตหลังขายหุ้น IPO แอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MRDIYT เปิดเผยว่า วางแผนขยายสาขาระยะสั้น 3 ปี รวม 1,500 สาขา ส่วนในระยะกลางเตรียมซื้อที่ 160 ไร่ เพื่อสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ โดยจะดำเนินการสร้างเป็นระยะ เริ่มดำเนินการได้ในปี 2571 และดำเนินการแบบเต็มรูปแบบในปี 2573
ปัจจุบันธุรกิจยังไม่มีคู่แข่งทางตรง แม้จะมีหลายเจ้าที่ขายสินค้าราคาใกล้เคียงกัน แต่ในเรื่องของความหลากหลายสินค้า MR.DIY มีมากกว่า 16,000 รายการ ซึ่งยังไม่มีใครทำได้ ทำให้มั่นใจธุรกิจยังมีพื้นที่เติบโตอีกมาก
ทั้งนี้ MRDIYT มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 3,008 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนไม่เกิน 655 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้มีอุปการคุณของบริษัท และพนักงานของบริษัท ผู้ลงทุนในประเทศ และผู้ลงทุนต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 20-29 ตุลาคม 2568 ในราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้นละ 8.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 5,633 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 51,747 ล้านบาท
ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ ต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 23.09 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2567 ถึงไตรมาส 2 ของปี 2568) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.36 บาท
หลัง IPO บริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ 1.กลุ่ม Mr. Tan Yu Yeh และ Mr. Tan Yu Wei ถือหุ้น 34.23% 2.บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. จำกัด ถือหุ้น 25.09% และ 3.กลุ่มนายจอมพงษ์และนางสาวฐิตานันท์ ถือหุ้น 18.99%
โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงิน รวมหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้ โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อประโยชน์ของกิจการและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก


