วันนี้ (30 ตุลาคม) รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ซึ่งมีการเชิญ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาธิการ, วรภัค ธันยาวงษ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ
รังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้จะพิจารณาต่อในเรื่องสแกมเมอร์ ตัวละครสำคัญไม่ว่าจะเป็นเบญจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ, วรภัค ก็มีการตามต่อ เราพยายามดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องเส้นทางการเงิน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญ ที่จะนำไปสู่การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์
วันนี้ข้อมูลหลายอย่างมีความชัดเจนขึ้น จึงอยากบอกว่าตอนนี้แก๊งสแกมเมอร์ ไม่ได้ทำอะไรแบบเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็นการเอาเงินเหยื่อ หรือการฟอกเงินมีลักษณะการใช้นอมินีเอาบางบุคคลมาบังหน้า ดังนั้น การจัดการกับแก๊งเหล่านี้ ถ้าหน่วยงานรัฐไม่ไปดูเรื่องฟอกเงินและเส้นทางการเงินแทบเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเอาผิดกับคนเหล่านี้
“การฟอกเงินจะไม่ร้ายแรงขนาดนี้ ถ้าไม่ได้รับการปกป้องจากอำนาจรัฐ เราก็มีข้อสงสัยว่าบุคคลต่างๆ ของรัฐบาล เข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ หรือการฟอกเงินได้อย่างไร เช่น ร.อ.ธรรมนัส ไปเกี่ยวข้องกับเจ้าพ่อการฟอกเงิน และสแกมเมอร์ได้อย่างไร รวมไปถึงคุณนฤมล ที่ไม่มาชี้แจงพร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส มากกว่านั้นคือกรณีของวรภัคที่มีการลาออกไปแล้ว ในการตรวจสอบต้องประสานงานเป็นตัวบุคคล” รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์ยังกล่าวว่า วันนี้เราอยากสอบถาม วราห์ สุจริตกุล รองประธานกรรมการบริษัทการเงินแห่งหนึ่ง ว่ามีข้อกังขาหรือคำถามว่ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เมื่อไม่ให้ความร่วมมือ เราก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป การที่เราได้เชิญบุคคลเหล่านี้มาคือโอกาสที่ดีในการชี้แจงข้อมูลให้ได้รับทราบ รวมถึงวันนี้เรายังได้เชิญ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ก็หวังว่าจะได้ข้อมูลนี้ เพื่อนำไปปราบปราม
“ถ้าเกิดท่านรู้ว่าท่านบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลมาชี้แจงกับเรา เอาข้อมูลที่มีมาให้ได้ แต่วันนี้มีกระบวนการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติสภา และ กมธ. แต่ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ การกระทำแบบนี้ทำไปแล้วใครได้ประโยชน์ ผมไม่คิดว่าเป็นพี่น้องประชาชน” รังสิมันต์กล่าว
ส่วนหากไม่มาชี้แจงจะใช้อำนาจเรียกหรือไม่ รังสิมันต์กล่าวว่า เรื่องการใช้อำนาจเรียก ไม่ได้เป็นสิ่งที่ตนตัดสินใจคนเดียว ต้องหารือในกรรมาธิการและลงมติ แต่คิดว่าคนที่ไม่มาชี้แจงกับกรรมาธิการจะเสียโอกาส และทำให้เกิดคำถามต่อสังคมว่ากลัวอะไร โดยเฉพาะคนที่มีตำแหน่งอยู่ในรัฐบาล
รังสิมันต์กล่าวอีกว่า สแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ แต่ว่าคนในรัฐบาลไม่มาตอบคำถามในกรรมาธิการแล้วจะเป็นวาระแห่งชาติได้อย่างไร ยังไม่นับที่ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ที่ช่วยตัวเองชี้เป้า บอกว่าใครคือโจร พูดถึงขนาดนี้หากไม่มีการดำเนินการอีก ตนจะรอดูว่าหากอนุทินไม่ทำอะไรเลย ความรับผิดชอบต่อประชาชนก็จะย้อนกลับไปที่อนุทินซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งของฝ่ายบริหาร
ส่วนการเปิดชื่อนักการเมือง ช. รังสิมันต์กล่าวว่า อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พยายามเปิดเผยเรื่องนี้ และชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 พรรคกล้าธรรม ได้ออกมาปฏิเสธแล้วบอกว่าเป็นบัญชีของพ่อแม่ ซึ่งตนก็ได้ข้อมูลมาบางส่วนแล้วในเรื่องของผังเส้นเงิน ยืนยันว่าเราตรวจสอบแน่
“ทุกวันนี้เว็บพนันกับแก๊งสแกมเมอร์เหมือนเป็นพี่น้องกัน ใช้เครือข่ายบัญชีม้าเหมือนกันเผลอๆ ที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์อาจอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่ก็น่าสนใจที่คุณธรรมนัสและเครือข่ายเหมือนจะไปเกี่ยวข้อง ตัวเองไม่ได้กล่าวหาแต่เหมือนจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเทาๆ เยอะ เรื่องเส้นทางการเงินที่มีการจับกุมชนนพัฒฐ์ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ แต่ก็น่าสนใจว่ากระบวนการยุติธรรมเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่มีการดำเนินการอย่างที่ควรจะเป็น” รังสิมันต์กล่าว
ส่วนที่ ร.อ. ธรรมนัส บอกว่าตนเองเป็นคนมีสถานะมีตำแหน่งไม่อยากปิงปองไปมา รังสิมันต์กล่าวว่า ไม่ได้มีความเสียหายอะไร รวมถึงนฤมลด้วย เท่าที่ดูมีหลายส่วนตัวละครเยอะ ตัวละครใหม่ และตัวละครเก่า เชื่อมมาถึงเหมือนกัน แต่วันนี้จะขอโฟกัสเรื่องนี้หากตั้งหลักดีๆ คีย์แมนจะมี 2 คน คือ ลิม เลียก และ เบน สมิธ เมื่อเรื่องถึงขนาดนี้ไม่เข้าใจว่าอนุทินอยู่เฉยได้อย่างไร
ส่วนที่ ร.อ. ธรรมนัส ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับนักการเมือง ช. ที่เป็นกรรมการบริหารพรรค รังสิมันต์กล่าวว่า ร.อ. ธรรมนัส น่าจะรู้จักโลกนี้ดีกว่าใคร ถ้าไม่รู้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ข้อกล่าวหาที่มีต่อชนนพัฒฐ์มีมาสักระยะแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องที่ถูกกล่าวหา เรื่องเว็บพนัน หรือกรณีที่อัจฉริยะบอกกับสื่อมวลชนว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ด้วย ข้อกล่าวหาหลายอย่าง ร.อ. ธรรมนัส บอกว่าไม่รู้ อาจฟังไม่ขึ้น และส่วนตัวมั่นใจว่า ร.อ. ธรรมนัส รู้เหมือนที่ชาดารู้ว่า ร.อ. ธรรมนัส เป็นอะไร เชื่อว่า ร.อ. ธรรมนัส รู้ว่าชนนพัฒฐ์เป็นอะไร โจรจะปราบโจร หรือโจรไปช่วยโจร หรือโจรจะอุ้มโจร
เสนอญัตติด่วน แก้ไขปัญหาสแกมเมอร์
รังสิมันต์ยังเปิดเผยว่า วันนี้จะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ โดยจะหยิบยกปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับตั้งคำถามไปยังรัฐบาล ถึงการแก้ไขปัญหา หลังรัฐบาลประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติแต่ในทางปฏิบัติกลับไม่มีความชัดเจน ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหวังว่าในช่วงที่ปิดสมัยประชุม รัฐบาลจะใช้เวลาปราบปรามสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก และจะมี สส. พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายหลายคน ก่อนที่จะปิดท้ายด้วย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค และ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
ส่วนการเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสแกมเมอร์เพิ่มเติม ในการอภิปราย รังสิมันต์กล่าวว่า แค่อักษรย่อ ช. ก็น่าจะมีหลายคน พร้อมกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ท้าให้ตนเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองออกมาเลยนั้น ส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลรู้ว่ามีใครบ้างที่เกี่ยวข้อง
“เวลาที่ฝ่ายค้านจะเปิดชื่อมีต้นทุน เราไม่ได้มีอำนาจรัฐ และเราพยายามโฟกัส เฉพาะตัวใหญ่ๆ นักการเมืองด้วยกันมีที่สำคัญเป็นพิเศษ เซ็นเตอร์ที่เป็นเป้าหมายเซ็นเตอร์ ของศูนย์กลางอาณาจักรมืด ที่เราพยายามจะแฉออกมา บางส่วนอาจจะเป็นตัวการใหญ่ไม่ใช่ตัวเล็กตัวน้อย แต่อาจจะสำคัญน้อยกว่าตัวระดับบน จึงจำเป็นต้องจัดลำดับและยุทธศาสตร์ให้ดี เพื่อให้เป้าหมายทลายอาณาจักรสีเทาสำเร็จลุล่วง” รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าก่อนสิ้นปีนี้รัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนในการปราบปรามกระบวนการสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นไปตามปฏิญญาสันติภาพ ไทย-กัมพูชา ที่ได้ลงนามไว้ สแกมเมอร์ฝั่งกัมพูชามีทั้งชื่อ ลี ยงพัด กับ ก๊กอาน ซึ่งรัฐบาลจะต้องขีดเส้นในการทำงานในปฏิบัติการจับกุม หากว่าทางกัมพูชามีความจริงใจ บุคคลเหล่านี้ก็ต้องถูกจับกุม ซึ่งกรณีของ ลียง พัด แม้ว่าจะถูกยึดทรัพย์ไปแล้วแต่ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่น้อย ส่วนตัวเชื่อว่า ลี ยงพัด น่าจะมีทรัพย์สินหลายหมื่นล้าน พร้อมย้ำว่าหากไทย ไม่ปราบปรามสแกมเมอร์อย่างจริงจัง ก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะที่ไทยที่เป็นเจ้าของญัตติวาระด่วน เสนอในเวที IPU ในการปราบสแกมเมอร์
วรภัค-นฤมล แจ้งติดภารกิจ ธรรมนัสระบุไม่มีหนังสือแจ้ง
ทั้งนี้ในห้องประชุมมีการชี้แจงว่า วรภัคแจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงการรวบรวมเอกสารข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อประกอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน รวมทั้งเตรียมดำเนินคดีต่อผู้หมิ่นประมาท ส่วนนฤมล แจ้งติดภารกิจ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา และประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ส่วน วราห์ แจ้งว่าได้รับหนังสือในช่วงเย็นวันที่ 28 ตุลาคม 68 ซึ่งเป็นระยะเวลากระชั้นชิด ขณะที่ ร.อ. ธรรมนัส ไม่มีหนังสือแจ้ง ด้านนายกฯ มอบหมายเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเข้าชี้แจงแทน
