วันนี้ (27 ตุลาคม) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รับมอบข้อมูลคนหายที่ถูกหลอกลวงไปทำงานให้กับแก๊งสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน จากมูลนิธิกระจกเงา เพื่อนำไปขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
โดยมี กนกวรรณ พูลเพิ่ม รองหัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย และ ศิริพร ติวสร้อย หัวหน้าเวรรับแจ้งเหตุคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เป็นผู้ยื่นหนังสือ
มูลนิธิกระจกเงาเปิดเผยถึงสถานการณ์น่าเป็นห่วงว่า ตลอดปี 2568 ได้รับแจ้งคนหายที่ถูกล่อลวงสู่อาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งการเปิดบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งหลอกให้ลงทุน ในประเทศเพื่อนบ้านแล้วกว่า 119 ราย โดยมีอายุเฉลี่ยเพียง 26 ปี และในจำนวนนี้มี เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีถึง 18 ราย อายุน้อยสุดเพียง 15 ปี และมีผู้สูงอายุสูงสุด 65 ปี ปัจจุบันยังมีคนไทยที่มูลนิธิฯ รับแจ้งเหตุอีก 25 ราย ที่ยังไม่สามารถกลับประเทศไทยได้
กนกวรรณ กล่าวว่า แม้มีการปิดชายแดนกัมพูชา แต่คนไทยยังถูกหลอกไปทำงาน เมื่อข้ามแดนไปแล้วจะถูกกักขังในสถานที่ปิด หากไม่ยอมทำงานอาจไม่ปลอดภัย ซึ่งทางมูลนิธิฯ ได้ยื่นข้อมูลกรณีเด็กหญิงอายุ 16 ปี ที่ถูกหลอกไปทำงานสแกมเมอร์ เพื่อขอให้คณะอนุกรรมการฯ ช่วยติดตามคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศ และขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้คนหางานรู้เท่าทันประกาศรับสมัครงานออนไลน์ที่ชักชวนไปทำงานในลักษณะนี้ รวมถึงขอให้บังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มนายหน้าที่หลอกคนไทยในประเทศ
ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวขอบคุณและจะนำข้อมูลคนหายที่ได้รับไปดำเนินการต่อในการติดตามช่วยเหลือ พร้อมเน้นย้ำเตือนคนไทยอย่าตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะประกาศรับสมัครงานที่อ้างเงินเดือนดี มีที่พักสบาย และมีการนัดหมายในจังหวัดตามแนวชายแดน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าจะถูกหลอกไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์อย่างแน่นอน พร้อมขอให้ผู้ที่หลงเชื่อและยังไม่ถูกดำเนินคดี กลับใจมาแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นเบาะแสในการกวาดล้างต่อไป
ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลคนหายที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 191, สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 หรือมูลนิธิกระจกเงา โทรศัพท์ 080-7752673 โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำเข้าสู่คณะอนุกรรมการฯ เพื่อประสานงานและเร่งรัดช่วยเหลือเหยื่อกลับประเทศไทยต่อไป
