พิธีลงนาม ‘ถ้อยแถลงร่วมผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชา ณ กัวลาลัมเปอร์’ จัดขึ้นในเวลาประมาณ 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ร่วมเป็นสักขีพยานที่ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
สำหรับมาเลเซียและทรัมป์เรียกคำประกาศร่วมฯ นี้ว่า ข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์
โดยช่วงต้นทรัมป์ได้กล่าวแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง และแสดงความเสียใจต่อประชาชนชาวไทยในช่วงเวลานี้
จากนั้นทรัมป์ได้ประกาศแสดงความยินดีต่อไทยและกัมพูชาที่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกัน รวมถึงขอบคุณบทบาทของมาเลเซียในฐานะคนกลาง เพื่อยุติความขัดแย้ง และลดความตึงเครียดต่อกัน โดยทรัมป์เผยว่า เขาได้ต่อสายคุยแบบสามฝ่ายร่วมกับมาเลเซียหลายครั้ง ก่อนจะมาคุยสี่ฝ่าย และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่มีการลงนามในวันนี้
ถัดจากทรัมป์ อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ได้กล่าวยกย่องบทบาททรัมป์ที่ช่วยเร่งให้ข้อตกลงสันติภาพเกิดเร็วขึ้น พร้อมระบุว่า โลกต้องการผู้นำที่ส่งเสริมสันติภาพอย่างแข็งขัน และมีความกล้าหาญเพื่อที่จะยุติความขัดแย้งระหว่างกัน
นอกจากนี้อันวาร์ยังกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีทั้งสองคนว่าได้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม และมีความเข้าใจถึงความจำเป็นในการสร้างสันติภาพและจุดยืนของอาเซียนในฐานะความเป็นแกนกลางของสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค
ส่วน ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวขอบคุณทรัมป์และอันวาร์เช่นกัน พร้อมระบุว่า ไม่ว่าข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาจะทำให้เกิดความยากลำบากเพียงใด แต่ก็จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธี
ผู้นำกัมพูชายังให้คำมั่นว่าจะดำเนินการตามถ้อยแถลงร่วมฯ นี้อย่างเต็มที่ และเพื่อให้แน่ใจว่าสันติภาพนี้จะยั่งยืน กัมพูชาพร้อมปรับลดอาวุธหนักบริเวณชายแดน ซึ่งถือเป็นเฟสแรก ขณะเดียวกันก็หวังว่าทหาร 18 นายที่อยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทยจะได้รับการปล่อยตัว
ช่วงท้าย ฮุน มาเนต ระบุว่า กัมพูชามีความพยายามอย่างแน่วแน่ในการส่งเสริมสันติภาพ และกล่าวว่าทรัมป์คู่ควรที่จะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
ด้าน นายกฯ อนุทิน กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นบทใหม่ของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และเป็นอีกก้าวสำคัญสู่สันติภาพ พร้อมขอบคุณบทบาทของมาเลเซีย และอาเซียนที่ยืนหยัดในความเป็นเอกภาพ ขอบคุณทรัมป์ที่อุทิศตนเพื่อสันติภาพ นอกจากนี้ยังกล่าวว่าซาบซึ้งกับถ้อยแถลงแสดงความอาลัยต่อความสูญเสียของพสกนิกรชาวไทย
นายกรัฐมนตรียังขอบคุณ ฮุน มาเนต ที่ร่วมเจรจาอย่างจริงจังจนนำมาสู่ถ้อยแถลงร่วมฉบับนี้ พร้อมยืนยันจุดยืนว่า ไทยสนับสนุนสันติภาพ รวมถึงอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และย้ำว่ากัมพูชาต้องดำเนินการตามเงื่อนไขในการถอนอาวุธหนักจากชายแดนและเก็บกู้ทุ่นระเบิด ขณะที่ไทยจะเริ่มกระบวนการปล่อยตัวเชลยทหารกัมพูชา
ช่วงท้าย อนุทิน ยังถือโอกาสนี้ในการประกาศว่า ไทยได้บรรลุแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยกรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศไทย (Joint Statement on a Framework for a United States – Thailand Agreement on Reciprocal Trade) และได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุที่มีความสำคัญในระดับโลกและการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งถือเป็นความร่วมมือด้านแรร์เอิร์ธฉบับแรกของไทย
ภาพ: Evelyn Hockstein / Reuters


