วันนี้ (18 ตุลาคม) รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ระบุผ่านโพสต์เฟซบุ๊กว่า ตอนนี้ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องสแกมเมอร์เป็นอย่างมาก แต่ความเคลื่อนไหวของประเทศไทยกลับตามหลังประเทศอื่นๆอย่างมีนัยยะสำคัญ
รังสิมันต์ห่วงว่า การที่นายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะทำงานปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ฟังเหมือนจะดูดี แต่ห่วงว่าจะเป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น เพราะนอกจากการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้ว ยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวอย่างเอาจริงของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะทลายศูนย์กลางของแก๊งสแกมเมอร์แต่ประการใด
“ไอ้ที่จับๆ ไปที่มีให้เห็นอยู่บ้าง ก็เทียบไม่ได้กับบรรดาแก๊งสแกมเมอร์ที่ใกล้ชิดกับ สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา นั่นน่ะหลายแสนล้านบาท เผลอๆ นับล้านล้าน เป็นเครือข่ายใหญ่มาก ทุกวันนี้เราก็เห็นแค่เพียงการส่งสัญญาณฟอกขาวของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐต่ออาชญากรตัวเป้งที่กัดกินสังคมไทยมาเป็นเวลานานเท่านั้น น่าผิดหวังจริงๆ” รังสิมันต์ระบุ
รังสิมันต์เสนอว่า หากนายกรัฐมนตรีต้องการเอาจริง และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ กับแก๊งสแกมเมอร์ ควรสั่งการต่อไปนี้
1. ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรกมเผ่า ออกจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัสให้คณะทำงานของตัวเองเป็นทนายความให้กับ เบน สมิธ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกเฝ้าระวังจากสหรัฐอเมริกา ที่ถูกเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จ ฮุน เซน อาจทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดความเกรงกลัวไม่กล้าทำหน้าที่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมไม่ให้ความร่วมมือต่อการตรวจสอบของกรรมาธิการ อีกทั้งยังใช้อำนาจในลักษณะของการข่มขู่การฟ้องปิดปากต่อสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ทำให้ขาดความเหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นใดอย่างยิ่ง
2. สั่งการให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ เบน สมิธ และภรรยา, ร.อ. ธรรมนัส ตลอดจนเครือข่ายของ ยิม เลียก หากพบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดก็ต้องยึดอายัดทันที
3. สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรวบรวมพยานหลักฐานในการปราบปรามและดำเนินคดีเครือข่ายทุนเทายึดประเทศพวกนี้ หากเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในกัมพูชา ก็ต้องมีการใช้กลของศาล ICC เพื่อเอาผิดผู้นำของกัมพูชาด้วย
“ผมในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ หวังว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนตัวผมก็จะทำหน้าที่ของตัวเองในการเชิญท่านธรรมนัส ท่านนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และท่านวรภัค ธันยาวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อมาชี้แจงต่อกรรมาธิการความมั่นคงในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ด้วย โปรดมาด้วยตนเองนะครับ อย่าส่งใครมาแทน” รังสิมันต์เน้นย้ำ
รังสิมันต์ระบุด้วยว่า เนื่องจากตนเองได้ติดตามคณะรัฐสภาไทยในเวทีการประชุม IPU หรือสหภาพรัฐสภา ณ นครเจนีวา ก็จะหยิบยกเรื่อง Scam Center เพื่อเป็นหนึ่งในเรื่องเร่งด่วนเพื่อนำไปสู่การยกระดับความร่วมมือในการจัดการแก๊งสแกมเมอร์ต่อประเทศต่างๆ ต่อไปด้วย