หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของแบรนด์แฟชั่นที่ช่วยสร้างการพูดถึงเป็นวงกว้าง คงไม่พ้นคอลเล็กชั่นคอลลาโบเรชั่น ที่มักจับคู่แบรนด์แมสคู่กับดีไซเนอร์ชื่อดัง ซึ่งคอลเล็กชั่นเหล่านี้มักถูกตั้งคำถามถึงการมีอยู่และความยั่งยืนในการร่วมงาน บ้างก็มองว่าเป็นแค่กลยุทธ์ชั่วคราวเพื่อเรียกยอดขายเท่านั้น แต่ UNIQLO and JW Anderson คอลเล็กชั่นคอลลาโบเรชั่นร่วมกับดีไซเนอร์ Jonathan Anderson กลายเป็นกรณีศึกษาที่คนกลับรอคอยแทบทุกซีซั่น ซึ่งความพิเศษของการร่วมงานกันครั้งนี้คือการนำจุดเด่นของทั้งสองมาใช้ได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี เมื่อความเป็นอังกฤษมาผสมแนวคิด LifeWear ที่ใช้งานได้จริง
หลังจากความสำเร็จในคอลเล็กชั่นแรก ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าต่อยอดคอลลาโบเรชั่นนี้อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นคอลลาโบเรชั่นประจำของ UNIQLO การผสมผสานที่ต่างกันแต่ลงตัวส่งให้คอลเล็กชั่นได้รับความนิยมอย่างสูง และต่อยอดมาเรื่อยๆ จวบจนปัจจุบัน วันนี้ THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปลงดีเทลเกี่ยวกับคอลเล็กชั่น UNIQLO and JW Anderson กันมากขึ้น
SPECIAL COLLABORATION PROJECT
UNIQLO มีแนวทางในการร่วมมือกับดีไซเนอร์และแบรนด์อื่นๆ ในซีรีส์ “Special Collaboration” เพื่อเสริมภาพลักษณ์และเติมความสดใหม่ให้กับไลน์หลักที่มีประจำอยู่แล้ว การที่ JW Anderson กลายเป็นหนึ่งในชื่อที่ถูกเรียกว่าคอลาบอเรชั่นพิเศษหมายถึงว่า การร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่งานครั้งเดียวจบ แต่เป็นพันธกิจระยะยาวที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของ UNIQLO ในการยกระดับไอเท็มเบสิกให้มีมิติเพิ่มขึ้น แต่ยังต้องใช้งานได้จริง การถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มคอลาบอเรชั่นช่วยสร้างความคาดหวังให้กับแฟนของแบรนด์ ไม่ใช่เพียงแค่ออกไอเท็มแบบลิมิเต็ด แต่เป็นการสื่อสารต่อเนื่องว่า Jonathan Anderson คือครีเอทีฟพาร์ตเนอร์ที่มีบทบาทสำคัญต่อ UNIQLO
FIRST COLLECTION
คอลเล็กชั่นแรกของ UNIQLO and JW Anderson เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2017 เริ่มวางจำหน่ายในเดือนกันยายนของปีนั้น คอลเล็กชั่นนี้ประกอบไปด้วยไอเท็มกว่า 33 ชิ้น มีไอเท็มสำคัญอย่าง trench coat ที่บุซับในลาย tartan, เสื้อแจ็กเก็ตผ้า wool blend, เสื้อถัก fair isle, เสื้อเชิ้ตลาย Oxford, กระเป๋าทรงโท้ตบุด้วยลวดลาย tartan รวมถึงการผสมผสาน DNA ของแบรนด์ JW Anderson ความสดใส สนุกและขี้เล่นลงบนเสื้อผ้าเบสิกสไตล์ UNIQLO ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ที่หลายคนหลงรักตั้งแต่แรก โครงสร้างที่เรียบง่ายแต่แฝงดีเทล รายละเอียดลวดลาย และการเลือกผ้าคุณภาพสูง ตามแนวคิดที่ Jonathan เคยกล่าวว่าเขาเชื่อมั่นในการสร้าง “Wardrobe which is universal and quirky”
ICONIC CAMPAIGNS
ภาพแคมเปญของ UNIQLO and JW Anderson มักถูกหยิบยกให้เป็นตัวอย่างของการสร้างมู้ดแอนด์โทนที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่มุมมองสินค้าธรรมดา แต่เป็นการเล่าเรื่องในบริบท “อังกฤษ” ผ่านท้องถนน, สถาปัตยกรรม, แสงไฟ และองค์ประกอบทางภูมิทัศน์ โดยมักใช้โทนสีเย็น ธรรมชาติเบา ๆ และคอนทราสต์นุ่ม ๆ ที่ให้ความรู้สึกทั้งคลาสสิกและสดใหม่ในเวลาเดียวกัน ซึ่งภาพแคมเปญส่วนใหญ่ของคอลเล็กชั่นนี้มักเน้นการถ่ายภาพในเมืองอังกฤษ สถานที่ที่สื่อถึง heritage เช่น อาคารอิฐ, ถนนกรวด หรือวิวทะเลอังกฤษ รวมถึงการจัดองค์ประกอบที่ดูเรียบง่ายแต่ทรงพลัง แตกต่างจากแคมเปญแฟชั่นทั่วไปที่มุ่งเน้นโชว์ชุดเพียงอย่างเดียว ในคอลาบอเรชั่นนี้ ภาพมักมีเรื่องราว มีบรรยากาศ และเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ทั้งสองให้พูดด้วยภาพเดียวก็จดจำได้ว่านี่คือคอลเล็กชั่น UNIQLO and JW Anderson ซึ่ง Jonathan เคยกล่าวถึงเรื่องการทำงานกับทีมภาพและ styling ว่าเป็นกระบวนการทำงานร่วมกันเพื่อให้แคมเปญสะท้อนเสียงของทั้งสองแบรนด์ ทั้งความเป็น UNIQLO ในแง่การใช้งานได้จริง และความเป็น JW Anderson ในเรื่องรายละเอียดและเสน่ห์แบบอังกฤษ
FALL/WINTER 2025 COLLECTION
สำหรับ Fall/Winter 2025 นี้ Jonathan Anderson ยังคงยึดแนวคิด “British Winter Wardrobe” โดยใช้ไอเท็มคลาสสิกอย่าง เสื้อเชิ้ต Oxford, Outerwear แบบ Field jacket, แจ็กเก็ต PUFFTECH Utility, เสื้อถัก หลากหลายเนื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็น ผ้าคอตตอน ผ้าวูล ผ้า Souffle Yarn และลวดลายผ้าเชิ้ตสก็อตต์ มาผสมผสานกับเฉดสีอุ่น เช่น สีแดงสด มัสตาร์ด สีฟ้าและเฉดน้ำตาล ความน่าสนใจคือการผสมผสานสี Statement เข้ามาในชุดพื้นฐาน เช่น เสื้อถักโทนเลือดส้ม (blood orange) หรือ เสื้อนิตทรงโปโลเพื่อให้คอลเล็กชั่นดูมีชีวิตชีวาแต่ไม่หลุดจากโทนฤดูหนาว โดยรวมแล้วนั้นคอลเล็กชั่น Fall/Winter 2025 จาก UNIQLO and JW Anderson คือการอัปเดตตู้เสื้อผ้าหน้าหนาวสไตล์อังกฤษที่สนุกและเล่นได้มากขึ้น มีสีสันและสามารถเล่นเลเยอร์เลือกชิ้นมิกซ์แอนด์แมตช์ได้
OXFORD BOXY SHIRT
ในคอลเล็กชัน Fall/Winter 25 ไอเท็ม Oxford Boxy Shirt ผ้า Cotton-Rayon ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ หลังจากได้รับความนิยมอย่างสูงในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 25 จนกลายเป็นไอเท็มที่ทั้งสองนำมาทำใหม่ ผ่านการใช้สีและลวดลายใหม่ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายให้สามารถนำไปใช้สร้างลุคมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ อีกหนึ่งจุดเด่นของ Oxford Boxy Shirt คอลเล็กชั่นนี้ ไม่ใช่แค่เชิ้ตลายทั่วไป แต่เป็นลายทางแบบ Oversized กลิ่นอาย Preppy ที่มาในทั้งโทนสีเบจธรรมชาติผสมแดง สีเทาผสมส้ม และก็สีฟ้า พร้อมยังมีดีเทลโลโก้ JW Anderson อยู่ตรงด้านล่างของเสื้อด้วย
KNITWEAR SELECTIONS
เสื้อถัก (Knitwear) เป็นไอเท็มที่ถูกเน้นมากใน Fall/Winter 2025 โดยเฉพาะ Gradient knits, Intarsia Designs และ Knit Polos ที่ใช้โทนสีสดผสมกับสีกลางสร้างบาลานซ์ในการเล่นเฉดสี ซึ่งเสื้อถักในคอลเล็กชั่นนี้ถือว่าหลากหลายมาก ตั้งแต่เรียบง่ายสวมใส่ได้ในทุกๆ วัน ไปจนถึงสีสดและลายถักพิเศษที่สามารถกลายเป็นชิ้น statement ได้ด้วยเช่นกัน โดยเทคนิคการถักของคอลเล็กชั่นนี้ประกอบด้วยกันหลายแบบทั้งแบบการไล่เฉด การเล่นกับลวดลาย รวมถึงเทคนิคการถักที่ต่างกันแต่มารวมไว้บนเสื้อตัวเดียว แถมเนื้อผ้าก็มีให้เลือกทั้งแบบ Smooth Cotton 100% ในสเวตเตอร์ Polo, ผ้าผสม Acrylic-Nylon และ Wool ในสเวตเตอร์ Ribbed Crew Neck, ผ้า Wool 100% ในสเวตเตอร์ลาย Herringbone และก็ผ้า Soufflé Yarn ในสเวตเตอร์ไล่สี ซึ่งพูดได้ว่าทุกชิ้นล้วนแทรกความสนุก ขี้เล่น แต่อยู่ในบริบทที่สามารถใช้งานได้จริง นำไปมิกซ์แอนด์แมตช์สร้างลุคเรียบๆ สบายๆ ไปจนถึงลุคเก๋ชวนมองได้ด้วยเช่นกัน
MUST HAVE ACCESSORIES
ใน Fall/Winter 2025 กลุ่มแอ็กเซสซอรีของ UNIQLO and JW Anderson ถูกให้ความสำคัญไม่น้อย มีไอเท็มหลายอย่างในคอลเล็กชันนี้ อาทิ กระเป๋าทรงโท้ตผ้าคานวาสที่ใช้สีที่สอดคล้องกับเฉดสีของเสื้อถัก ทำให้สามารถแมตช์ให้เข้าคอลเล็กชันได้ง่าย หมวกแก็ปผ้า Corduroy สีมัสตาร์ดหรือสีน้ำเงินที่ช่วยให้ลุคฤดูหนาวไม่ดูหนักเกินไป แถมยังแอบเก๋เป็นกิมมิกเล็กๆ ที่ช่วยส่งให้ลุคดูสนุกมากขึ้นด้วย ถุงเท้าแบบ Heattech ไอเท็มเล็กๆ ที่แอบได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่แพ้เสื้อผ้า ซึ่งในคอลเล็กชันนี้มีหลายสไตล์ และมีสีสันที่หลากหลาย เข้ากับธีมฤดูหนาวของคอลเล็กชัน แอ็กเซสซอรีเหล่านี้ไม่ใช่ของแถมแต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของคอลเล็กชันนี้อย่างแท้จริง เป็นไอเท็มที่ช่วยเติมเต็มให้คอลเล็กชันนี้สมบูรณ์มากขึ้น