สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ ในปีนี้ ที่มารินา เบย์ สตรีท เซอร์กิต มีข้อกังวลเกี่ยวกับภาวะอันตรายจากความร้อน หรือ heat hazard ซึ่งมาพร้อมกับกฎใหม่ที่ตามมา ทำให้เราได้รู้จักกับอุปกรณ์ใหม่อย่างเสื้อระบายความร้อน หรือ cooling vests สำหรับผู้ขับขี่ F1
โดยทางสพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ FIA ได้ประกาศภาวะ อันตรายจากความร้อน ในรายการ สิงคโปร์กรังด์ปรีซ์ เนื่องจากมีการพยากรณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 31 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสูงกว่า 75% ตลอดสุดสัปดาห์ที่ทำการแข่งขัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อำนวยการการแข่งขัน F1 ได้บังคับใช้กฎระเบียบนี้
กฎอันตรายจากความร้อนนี้ เคยถูกนำมาใช้เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขัน กาตาร์กรังด์ปรีซ์ ปี 2023 ซึ่งมีการแข่งขันภายใต้ความร้อนและความชื้นสูง โดยในครั้งนั้น โลแกน ซาร์เจนต์ ต้องออกจากการแข่งขัน ส่วนแลนซ์ สโตรลล์ เกือบจะเป็นลมหลังจบการแข่งขัน
อุณหภูมิที่สูงแตะระดับ 30 องศาเซลเซียสในระหว่างการแข่งขันที่สิงคโปร์ ซึ่งใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง สามารถทำให้นักขับสามารถสูญเสียน้ำหนักตัวผ่านเหงื่อได้มากถึง 3 กิโลกรัม หรือเทียบเท่ากับของเหลว 3 ลิตร ซึ่งอาจคิดเป็น 4% ถึง 5% ของน้ำหนักตัว
จอร์จ รัสเซลล์ กล่าวว่า ความรู้สึกภายในห้องนักขับรู้สึกเหมือนเข้าห้องซาวน่า โดยมีความชื้น 90% และอุณหภูมิอาจสูงถึงเกือบ 60 องศาเซลเซียส
นั่นนำมาซิ่งเทคโนโลยีเสื้อระบายความร้อน (Cooling Vests) และการชดเชยน้ำหนัก (Weight Compensation)
การประกาศภาวะอันตรายจากความร้อนตามกฎของ F1 ระบุว่า น้ำหนักขั้นต่ำของรถยนต์จะถูกเพิ่มขึ้น 5 กิโลกรัม เพื่อรองรับฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการทำงานของเสื้อระบายความร้อนแบบของเหลวที่ผู้ขับขี่สวมใส่
ผู้ขับขี่สามารถเลือกที่จะไม่สวมเสื้อระบายความร้อนได้ แต่หากผู้ขับขี่เลือกที่จะไม่สวมเสื้อ พวกเขาจะต้องบรรทุก Ballast หรือตัวน้ำหนักถ่วงเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่ที่เลือกใช้เสื้อระบายความร้อนจะไม่เสียเปรียบด้านน้ำหนัก
โดยวิธีการทำงานของเสื้อตัวนี้มีหัวใจอยู่ที่ระบบการสูบสารหล่อเย็นผ่านท่อบาง ๆ ที่เย็บติดอยู่ภายในเสื้อ
อย่างไรก็ตามผู้ขับขี่บางส่วนบ่นว่าวาล์วเชื่อมต่อกับปั๊มในเสื้อ อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย เมื่อรวมกับแรง G ที่สูงในการขับขี่ แถมด้วยวัสดุที่หนาและท่อในเสื้อพิสูจน์แล้วว่าทำให้รู้สึกเทอะทะภายใต้ชุดป้องกันไฟของผู้ขับ
นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของระบบ หากระบบสูบสารหล่อเย็นล้มเหลว เสื้ออาจให้ผลตรงกันข้าม เพราะตัวเสื้อจะมีฉนวนกันความร้อน ซึ่งจะทำให้ร่างกายร้อนยิ่งขึ้น
เสื้อระบายความร้อนนี้ ทำให้เกิดความเห็นที่หลากหลายจากบรรดานักขับ โดย จอร์จ รัสเซลล์ เห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดี และเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป ผู้ขับขี่จะสามารถตัวให้เข้ากับเสื้อและเกิดเป็นความชอบที่ตามมาได้
ด้าน ลูอิส แฮมิลตัน กล่าวว่าเขาไม่เคยใช้มันมาก่อนและได้ลองใช้ แต่เขารู้สึกว่าเสื้อนี้ ใส่แล้วไม่สบายตัวอย่างมาก แถมยังรู้สึกคันมากเมื่อสวมใส่
ส่วน คาร์ลอส ไซน์ซ กล่าวว่าทีมต่าง ๆ พยายามอย่างมากที่จะทำให้ระบบทำงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยหวังว่าระบบการให้ความเย็นจะสามารถทำงานได้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง แม้ว่าการแข่งขันจะยาวสองชั่วโมงก็ตาม
ขณะที่ นิโก อูล์เคนแบร์ก เผยว่าเขาถูกโน้มน้าวให้สวมเสื้อระบายความร้อน หลังจากที่เขาเหนื่อยล้ามากหลังการแข่งขันที่ เจดดาห์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ทาง อเล็กซ์ อัลบอน ซึ่งใช้เสื้อดังกล่าวกลับดูสดชื่นเหมือนอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ เลยทีเดียว
แม้เทคโนโลยีเสื้อระบายความร้อน จะยังเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นชินสำหรับนักขับและรวมไปถึงแฟน F1 แต่มันก็เป็นเรื่องพิสูจน์ที่ดีว่า F1 ไม่ได้มีการพัฒนาเฉพาะแค่เรื่องรถ หรือ เรื่องเทคโนโลยียานยนต์เท่านั้น แต่ยังมีการพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยของนักขับควบคู่กันไปด้วย
และการใส่ใจรายละเอียดเหล่านี้นี่เอง ที่เป็นอีกหนึ่งในเสน่ห์ ที่ทำให้แฟนๆ ทั่วโลกหลงไหลในกีฬาความเร็วอันดับ 1 ชนิดนี้
ภาพ: Clive Rose – Formula 1 / / Getty Images
อ้างอิง:
- https://formularapida.net/en/fia-shares-details-for-singapore-gp-f1-drivers-add-on-heat-hazard/
- https://www.fia.com/system/files/decision-document/2025_singapore_grand_prix_-_heat_hazard_declaration_.pdf
- https://www.fia.com/system/files/decision-document/2025_singapore_grand_prix_-_race_directors_event_notes_.pdf
- https://www.espn.com/f1/story/_/id/46474976/singapore-heat-hazard-how-f1-cooling-vests-work