×

สภากลาโหม เคาะ 8 นโยบายเร่งด่วน สนองนโยบาย-เป็นเอกภาพกับรัฐบาล รักษาศรัทธาประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
02.10.2025
  • LOADING...

วันนี้ (2 ตุลาคม) พล.ร.ต. สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงผลการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 9/2568 ที่มี พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม

 

พล.ร.ต. สุรสันต์ระบุว่า พล.อ. ณัฐพลได้กล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยแสดงความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อนำพาและพัฒนากองทัพให้มีความพร้อม ทันสมัย เข้มแข็งสง่างาม เป็นมืออาชีพ เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส ได้รับความเชื่อมั่นจากสังคม และได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติ พร้อมมอบนโยบายสำคัญเร่งด่วน 8 ข้อ ในช่วงที่รัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ตลอด 4 เดือน ดังนี้

 

1. การแก้ไขปัญหาความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยให้ความสำคัญกับการรักษาอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติ ความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก และเน้นย้ำเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี

 

2. การพัฒนาพื้นที่ชายแดนให้เกื้อกูลต่อการเคลื่อนย้ายกำลัง การป้องกันชายแดน การป้องกันประเทศ และการปฏิบัติการทางทหารอื่นๆ โดยมอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเหล่าทัพ เร่งรัดการดำเนินการ เช่น หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ เพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และสายส่งกำลังบำรุง ให้กับหน่วยทหารที่อยู่ในแนวหน้า

 

3. การเสริมสร้างกองทัพให้มีศักยภาพและความพร้อมรองรับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไปโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การนำโดรน UAS หรือ ระบบแอนตี้โดรน (C-UAS) มาใช้ รวมทั้งพัฒนาปฏิบัติการรบผสมเหล่า ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันเหล่าทัพสามารถรบร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกองบัญชาการกองทัพไทย เป็นส่วนรับผิดชอบหลัก

 

4. การพัฒนากองทัพให้มีโครงสร้างที่เหมาะสม พร้อมรบ และทันสมัย รวมทั้งกำหนดสัดส่วนงบประมาณที่เหมาะสม ระหว่างงบพื้นฐานกับงบพัฒนากองทัพ

 

5. การพัฒนาขีดความสามารถกำลังพลของกองทัพ ในการใช้เครื่องมือบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยงานพลเรือน มีการจัดทำ MOU ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

 

6. การพัฒนางานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมุ่งสู่เชิงพาณิชย์ ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และส่งเสริมภาคเอกชน เพื่อลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ เนื่องจาก ปัจจุบันไทยจำเป็นต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้นในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

 

7. การพัฒนาศักยภาพและดูแลสิทธิ สวัสดิการของกำลังพลชั้นผู้น้อย และทหารกองประจำการ ตลอดจนครอบครัวของกำลังพล ให้มีความมั่นคง

 

8. การยกระดับระบบการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เพื่อดูแลทหารผ่านศึกและครอบครัวได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน ครอบคลุมถึงการดูแลเรื่องเงินค่าตอบแทน เงินเยียวยาต่างๆ และสิทธิต่างๆ ในการปฏิบัติหน้าที่

 

พล.ร.ต. สุรสันต์ระบุอีกว่า ขณะนี้ มีการลงพื้นที่ไปดูแลเยียวยาครอบครัวกำลังพลที่พบความขัดข้องในการรับเงินเยียวยา เนื่องจากกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการตามที่สัญญาไว้ในด้านการสนับสนุนเยียวยาทั้งหลาย รวมถึงทหารที่รับบาดเจ็บ

 

ขณะที่ ผู้บัญชาการทหารบกยืนยันว่าจะมีการช่วยเหลือ โดยให้ญาติหรือครอบครัวของกำลังพลที่เสียชีวิตพิจารณาให้สามารถบรรจุเข้ารับราชการเป็นกำลังพลของกองทัพต่อไป

 

ทั้งนี้ พล.อ. ณัฐพลได้ชื่นชมกำลังพลทุกระดับที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาที่ผ่านมา ด้วยความเสียสละ อดทน เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จนเป็นที่ไว้วางใจ เชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชน สมศักดิ์ศรีของกองทัพ

 

พร้อมเน้นย้ำให้ธำรงรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของทหารและกองทัพในสายตาของประชาชน ทั้งในและนอกเวลาราชการ ตลอดจนการใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างมีความรับผิดชอบ และเน้นย้ำให้ทำงานร่วมกันด้วยความสามัคคีในหมู่คณะ เป็นหนึ่งเดียวกับรัฐบาล เป็นเอกภาพ โดยยึดถือความถูกต้อง ความมีเหตุและผล และผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising