×

เกษียณไม่มีจริง? เทรนด์ใหม่ชาวอเมริกันวัย 75+ ยังทำงานพุ่งสูงขึ้น สะท้อนนิยามใหม่ของชีวิตหลังวัยทำงาน

01.10.2025
  • LOADING...
us-senior-working-rate-age-75-plus-social-security-delay

อายุขัยที่ยืนยาวขึ้นกำลังส่งผลให้ชาวอเมริกันจำนวนมากเลือกที่จะทำงานต่อไปแม้จะผ่านพ้นวัยเกษียณแบบดั้งเดิมไปแล้ว ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ชี้ว่าเกือบ 9% ของชาวอเมริกันอายุ 75 ปีขึ้นไป ยังคงทำงานหรือกำลังมองหางานในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 6% เมื่อสองทศวรรษก่อน ขณะที่กลุ่มอายุ 65-74 ปี มีสัดส่วนผู้ที่ยังทำงานอยู่สูงถึง 27% ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 22% ในปี 2004 ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนิยามของคำว่า ‘ชีวิต’ หลังวัยทำงาน

 

เหตุผลที่ผู้คนเลือกที่จะชะลอการเกษียณออกไปนั้นมีหลากหลาย บางส่วนมาจากความกังวลด้าน ‘การเงิน’ ขณะที่อีกหลายคนเป็นผู้ประกอบการหรือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่รักในสิ่งที่ทำมากเกินกว่าจะหยุดไปเฉยๆ นิโคล มาเอสตาส ศาสตราจารย์จาก Harvard Medical School กล่าวว่า การทำงานต่อไปยังช่วยให้พวกเขามีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและได้กระตุ้นสมองและร่างกายอยู่เสมอ

 

การทำงานที่ยาวนานขึ้นยังส่งผลดีอย่างยิ่งต่อสถานะทางการเงิน การมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องแม้จะเป็นเพียงงานพาร์ทไทม์ จะช่วยลดการถอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์ ทำให้มีเงินเหลือเก็บไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิตหรือเป็นมรดกให้ลูกหลานได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถชะลอการรับเงินประกันสังคม (Social Security) ออกไปได้ ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินบำนาญต่อเดือนเพิ่มขึ้นถึง 8% ในทุกๆ ปีที่รอ

 

The Wall Street Journal ได้พูดคุยกับผู้สูงวัย 4 คนถึงเส้นทางและวิธีการที่พวกเขาใช้ในการออกแบบชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีเรื่องราวและปรัชญาที่น่าสนใจแตกต่างกันไป

 

การเกษียณที่ไม่ได้วางแผน และความกังวลเรื่องเงินในบั้นปลาย

 

เมิร์ล แมนลีย์ จิตแพทย์วัย 78 ปี เคยตั้งใจว่าจะทำงานไปจนถึงอายุ 80 ปี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเกษียณในวัย 76 ปี ด้วยเหตุผลด้านการใช้ชีวิตมากกว่าอายุ เมื่อค่าเช่าทั้งอพาร์ตเมนต์และออฟฟิศในบรูคลินพุ่งสูงขึ้น เขาจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับคนรักที่รัฐมินนิโซตา ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เขาบอกว่า “ไม่มีใครแก่เกินกว่าจะเปลี่ยนแปลง”

 

ปัจจุบันเขามีเงินออมประมาณ 1.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 41.9 ล้านบาท) และได้รับเงินประกันสังคมเดือนละ 3,300 ดอลลาร์ (ประมาณ 106,000 บาท) แต่ด้วยค่าใช้จ่ายรายปีที่สูงถึง 160,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.16 ล้านบาท) ซึ่งรวมถึงค่าเช่า, การเดินทาง และกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ทำให้เขาเริ่มกังวลว่าจะใช้เงินออมจนหมดก่อนเสียชีวิต

 

ความกังวลดังกล่าวทำให้ล่าสุดเขาได้เริ่มมองหางานจิตแพทย์พาร์ทไทม์ผ่านระบบออนไลน์ โดยตั้งเป้าหมายทำงานประมาณสัปดาห์ละ 10 ชั่วโมง ซึ่งเขากล่าวว่าอายุที่มากขึ้นกลับเป็นข้อได้เปรียบในสายอาชีพของเขา “โดยทั่วไปแล้ว คนไข้มักจะมองว่าอายุคือข้อได้เปรียบในสายงานของผม” เขากล่าว

 

ช่างภาพวัย 80 ที่ค่อยๆ ‘ผ่อน’ งาน แต่ไม่เคยหยุดใช้ชีวิต

 

แดเนียล เมนเซอร์ ช่างภาพวัย 80 ปี ไม่มีแผนที่จะวางกล้องในเร็ววันนี้ แต่เขาเลือกที่จะ ‘ผ่อน’ การทำงานเพื่อหารายได้ลง โดยปัจจุบันทำงานเพียงสัปดาห์ละประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เขาเริ่มต้นเส้นทางช่างภาพตั้งแต่อายุ 11 ปี และเปิดสตูดิโอของตัวเองมานานหลายทศวรรษ

 

เขามีเงินออมประมาณ 600,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 19.3 ล้านบาท) และมีรายได้ต่อปีราว 75,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.42 ล้านบาท) ซึ่งมาจากทั้งงานถ่ายภาพ, เงินประกันสังคม และเงินปันผล เขายังคงใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง ทั้งการทำสวน, ทำอาหารเลี้ยงเพื่อน, เล่นเทนนิสสัปดาห์ละสามครั้ง และยังคงหลงใหลในรถยนต์ Porsche ที่เขาเป็นเจ้าของมาตั้งแต่ปี 1966

 

เมนเซอร์เชื่อในปรัชญาที่ว่า ‘สุขภาพ’ ที่ดีมาจากการไม่หยุดนิ่ง “การมีส่วนร่วมกับชีวิตอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญ โลกนี้ยังมีอะไรเกิดขึ้นอีกมากมาย” เขากล่าว ซึ่งเป็นทัศนคติที่ทำให้เขายังคงมีความสุขและมีพลังในการสร้างสรรค์ผลงานแม้จะอยู่ในวัย 80 ปีแล้วก็ตาม

 

วิศวกรวัย 86 ปี ผู้ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง เพราะ ‘ทำไมต้องหยุด?’ 

 

ในวัย 86 ปี เฟรด ฟาห์เลน ยังคงทำงานในฐานะวิศวกรสิ่งแวดล้อมสัปดาห์ละประมาณ 40 ชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่เป็นการทำงานอาสาสมัครโดยไม่รับค่าจ้าง “อาชีพการงานเกือบทั้งหมดของผมเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดีและความสำเร็จ แล้วทำไมผมจะต้องหยุดด้วยล่ะ?” เขากล่าว

 

หลังจากที่เอาชนะโรคมะเร็งได้ในช่วงอายุ 60 ปี เขาก็ยิ่งมีความหลงใหลในงานและครอบครัวมากขึ้น ฟาห์เลนเป็นคนที่ใช้จ่ายกับตัวเองน้อยมาก เพียงปีละประมาณ 70,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.26 ล้านบาท) แต่กลับทุ่มเงินเกือบ 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 32.2 ล้านบาท) ให้กับการศึกษาของหลานๆ ทั้งห้าคน

 

เขามีเงินออมประมาณ 1.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 54.8 ล้านบาท) และยังไม่มีแผนที่จะหยุดทำงานในเร็ววันนี้ “ผมรู้สึกโชคดีอย่างยิ่งที่ได้ทำงานที่ผมรักมานานหลายทศวรรษ” ฟาห์เลนกล่าว 

 

เกษียณตอนอายุ 74 แต่ยังคงกระฉับกระเฉงเพื่อไม่ให้ชีวิตถดถอย

 

ชารอน คอลลิเออร์ วางแผนที่จะเกษียณในวัย 75 ปี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเกษียณเร็วขึ้นเล็กน้อยเมื่อมีข้อเสนอซื้อธุรกิจของเธอเข้ามาอย่างปฏิเสธไม่ได้ “ฉันชอบทำงานจริงๆ” เธอกล่าว เธอและสามีเชื่อว่าการทำงานที่ยาวนานขึ้นส่งผลดีต่อสุขภาพของพวกเขา

 

หลังจากเกษียณ เธอกลับรู้สึกว่างเปล่าและไร้ทิศทางไปช่วงหนึ่ง แต่เธอก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของพ่อแม่ ที่ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุขด้วยการเดินทาง และเข้าสังคม ซึ่งต่างจากพ่อของสามีที่หยุดทำทุกอย่างและสุขภาพทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว

 

ปัจจุบัน เธอและสามีจึงใช้ชีวิตอย่างกระตือรือร้น ทั้งการทำสวน, เดินป่า, เข้าร่วมชมรมหนังสือ และใช้เวลากับลูกหลาน พวกเขามีเงินออมประมาณ 1.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 45.1 ล้านบาท) และมีรายจ่ายต่อปีประมาณ 158,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.1 ล้านบาท) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าประกันสุขภาพและภาษี

 

ชารอนกล่าวว่าเธอกำลังพยายามดำเนินรอยตามพ่อแม่ของเธอ “ฉันเห็นว่าพวกท่านมีความสุขกันมากแค่ไหน” เธอกล่าว ซึ่งเป็นเป้าหมายในการสร้าง ‘อิสระ’ และความสุขให้กับชีวิตหลังเกษียณของเธอเอง

 

หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.24 บาท ณ วันที่ 29 กันยายน 2568 

 

ภาพ: Tint Media / Shutterstock

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising