เป็นอีกครั้งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ออกมาเผยว่าเขาจะดำเนินการเก็บภาษี 100% จากภาพยนตร์ที่ผลิตนอกสหรัฐอเมริกา โดยเขาโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social อันเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเองว่า
“ธุรกิจหนังของเราถูกขโมยไปจากสหรัฐอเมริกาโดยประเทศอื่นๆ เหมือนกับการ ‘ขโมยลูกกวาดจากเด็กน้อย’ โดยเฉพาะแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งผู้ว่าการรัฐทั้งอ่อนแอและไร้ความสามารถที่โดนหนักที่สุด
ดังนั้นเพื่อที่จะแก้ปัญหาที่มีมานานและไร้จุดจบนี้ให้ได้เสียที ผมจะเก็บภาษี 100% จากหนังเรื่องใดก็ตามที่ถ่ายทำหรือผลิตนอกสหรัฐอเมริกา”
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสิ่งใดที่จุดประกายความคิดดังกล่าวของ Donald Trump ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาก็เคยโพสต์ข้อความที่มีใจความคล้ายกันมาแล้ว โดย Donald Trump เขียนข้อความว่า โปรดักชันภาพยนตร์ต่างชาตินับเป็น ‘ภัยคุกคามระดับประเทศ’ ต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสหรัฐฯ เพราะนอกจากจะดึงนักทำหนังออกสู่ตลาดของประเทศอื่นแล้ว มันยังสามารถส่งสารและนำโฆษณาชวนเชื่อมาสู่ประชาชนคนอเมริกันได้ด้วย ซึ่งตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็ไม่เคยให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีก และไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเริ่มใช้นโยบายนี้จริงๆ เมื่อไรกันแน่
ช่วงไม่กี่ปีมานี้เหล่าโปรดักชันภาพยนตร์แห่งวงการฮอลลีวูดมักจะเดินทางไปถ่ายทำกันในสถานที่ที่มีแรงจูงใจทางภาษีมากกว่าเพื่อลดต้นทุนของการสร้างหนัง อย่างอังกฤษ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในขณะที่ผู้กำกับหลายคนต้องการถ่ายทำภาพยนตร์ในโลเคชันจริงที่ไม่ใช่การเซตฉากในกองถ่ายขึ้นมา โดยขณะนี้ผู้ว่าการแคลิฟอร์เนีย Gavin Newsom ที่ Donald Trump เอ่ยถึงกำลังผลักดันโปรแกรมเพิ่มแรงจูงใจทางภาษีอยู่ ส่วนเหล่าสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิง รวมไปถึงสมาคมภาพยนตร์ (MPA) ก็ยังไม่แน่ใจว่า Donald Trump จะดำเนินการจริงๆ หรือไม่ แต่แหล่งข่าวเผยว่าพวกเขากำหนดวันประชุมเพื่อหามาตรการรองรับนโยบายใหม่ของประธานาธิบดีเอาไว้แล้ว
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง: