วานนี้ (29 กันยายน) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง 1 วาระคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา รักชนก ศรีนอก สส. กทม. พรรคประชาชน กล่าวอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า แม้ว่าเวลารัฐบาลจะไม่นาน แต่ก็พอที่จะสะท้อน ซึ่งตอนนี้กรณีประกันสังคมได้ แม้ว่าตอนนี้จะมีคนได้รับกรรมไปบางส่วน แต่บางคนก็ยังเสพสุขกองเงิน
รักชนกชี้ว่า รัฐบาลชุดนี้มีคนที่เกี่ยวข้องกับตึก SKYY9 อย่าง พัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เคยเป็นอดีตเจ้าของตึก แต่เมื่อวันนี้มาเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงควรจะให้ความเห็นได้ดีที่สุดว่า ราคาควรจะเป็นราคาเท่าไร การที่ สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาระบุว่าใสซื่อ มือสะอาดอยู่คนเดียว ทั้งที่รอบตัวสกปรก หากท่านบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง สิ่งที่ควรจะทำคือต้องให้ความร่วมมือและพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวน
“การยกมือโหวต อนุทิน ชาญวีรกูล มาเป็นนายกรัฐมนตรี คือให้ยุบสภาใน 4 เดือนและริเริ่มแก้ไขรัฐธรรมนูญวางหมุดหมายแรกไม่ได้เลือกให้แต่งตั้งคนที่ เฮงซวย คดโกงมาเป็นรัฐมนตรี” รักชนกกล่าว
รักชนกกังวลว่า จึงกังวลว่าจะเกิดความเตะถ่วงด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวจึงไม่มั่นใจว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวนจะตรงไปตรงมา เพราะกระบวนการสอบวินัยถูกขัดขวางอย่างหนัก
ขณะที่การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม จะมีการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถ้าไม่มีการเลือกตั้งสิทธิต่างๆ จะวนเวียนอยู่ที่เดิม ไม่มีวันได้รู้ว่าใครได้ทำอะไรไว้ในสำนักงานประกันสังคม หรือโครงการใดส่อคอร์รัปชันหรือถูกชงมาอย่างไร จึงมีความพยายามล้มการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม เพราะคนรู้เยอะก็แฉเยอะ การแก้ระเบียบการเลือกตั้งจึงไม่มีตัวแทนของผู้ประกันตน นำมาซึ่งข้อสงสัยว่าในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะได้เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมหรือไม่
รักชนกเรียกร้องให้ ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตอบคำถามในการตรวจสอบการซื้อตึก SKYY9 และแนวทางการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม พร้อมยังได้วิจารณ์การบริหารกองทุนประกันสังคมที่มีมูลค่ากว่า 2.2 ล้านล้านบาท โดยใช้ระบบราชการ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีเท่าที่ควร
รักชนกยังเปิดเผยเหตุผลที่เคยได้รับว่า ที่ไม่จ้างมืออาชีพระดับโลกมาบริหารเพราะ “คนในประกันสังคมอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่อง” จึงเรียกร้องให้มีการผลักดันกรอบการลงทุนใหม่ที่อ้างอิงมาตรฐานสากล ซึ่งจะป้องกันการลงทุนที่ส่อทุจริตแบบกรณีตึก SKYY9 ได้ โดยระบุว่ากรอบการลงทุนใหม่นี้ได้จัดทำเสร็จแล้ว แต่ถูกข้าราชการระดับบริหารขัดขวางไม่ให้ผ่าน
รักชนกยังเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีและตรีนุชว่า 4 เดือน 4 งาน ที่อยากให้เร่งรัดกระบวนการสอบวินัยกรณีลงทุนซื้อตึก SKYY9 และลงโทษคนผิดใน 3 เดือน อีกทั้งต้องไม่มีการเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม รวมถึงต้องไม่มีการเตะถ่วงเวลาให้ล่าช้าเกินกว่ากำหนด พร้อมผลักดันกรอบการลงทุนใหม่ ปราบผีตึก SKYY9 ไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ต่อมา พัฒนาขอใช้สิทธิชี้แจฝบริษัทที่ตนเคยร่วมบริหาร โดยระบุว่า ได้ซื้ออาคารในปี 2560 ในสภาพอาคารร้าง และปี 2562 ขายในราคา 2,000 ล้านบาท โอนกรรมสิทธิ์ในปีเดียวกัน และมีการปรับปรุงอาคาร ยืนยันว่า ในส่วนที่ตนเองกับบริษัทที่เคยร่วมบริหาร ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันกับผู้ซื้อ คือบริษัท I.C.E. แต่อย่างใด และไม่เคยติดต่อกับสำนักงานประกันสังคม หรือกระทรวงแรงงาน