เปิดคัมภีร์กลยุทธ์ซัพพลายเชน พลิกเกมธุรกิจเติบโตยั่งยืน

สยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Business Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ฉายภาพความท้าทายของ SME ไทยจากปัจจัยรอบด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย, อัตราแลกเปลี่ยน, ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว SME จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอดและการเติบโต

“ซัพพลายเชน ไม่ได้เป็นเพียงแค่การซื้อมาขายไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญและเป็นเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจ”

‘ซัพพลายเชน’ เส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจ

สยุมรัตน์ มองว่า ซัพพลายเชนเป็นมากกว่า ‘ระบบหลังบ้าน’ แต่เป็น ‘กลยุทธ์สร้างการเติบโต’ ให้กับธุรกิจ ภายใต้ความสำคัญ 3 มิติ คือ

เครื่องมือควบคุมต้นทุน: ซัพพลายเชนไม่ใช่แค่การจัดหาวัตถุดิบ แต่เป็นกลไกในการบริหารจัดการสต็อก ลดปัญหาสินค้าค้างสต็อกและต้นทุนจม
สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า: การมีซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งช่วยให้ SME ส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในยุคที่ตลาดเป็นของผู้บริโภค
เพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัว: การเข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนของบริษัทใหญ่เปรียบเสมือน ‘ตราประทับ’ ความน่าเชื่อถือ ที่ ทำให้ง่ายต่อการขยายธุรกิจและสร้างการยอมรับในตลาด

4 ขั้นตอนสร้าง Supply Chain ให้แข็งแกร่ง

วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าและเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อวางแผนการผลิตและจัดเก็บสต็อกได้อย่างแม่นยำ
บริหารจัดการสต็อกให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เพื่อให้สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทันเวลา
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ เลือกซัพพลายเออร์ที่เป็นเหมือน “เพื่อนร่วมทาง” มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน สามารถให้คำแนะนำและเติบโตไปด้วยกันได้ ไม่ใช่แค่ผู้ขายวัตถุดิบ
ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในการบริหารจัดการซัพพลายเชน นำข้อมูลทั้งจากฝั่งลูกค้าและซัพพลายเออร์มาวิเคราะห์ เพื่อวางแผนการขนส่งและขยายตลาดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ประเมินความพร้อม 5 ด้าน ก่อนสเกลธุรกิจ

การเงิน – มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอหรือไม่
ทีม – บุคลากรมีความพร้อมและมีเป้าหมายเดียวกับองค์กรหรือไม่
ระบบและกระบวนการ – มีระบบการจัดการสต็อกและบัญชีที่รองรับการเติบโตหรือไม่
ตลาดและลูกค้า – รู้จักและเข้าใจลูกค้าของตัวเองดีแค่ไหน
Supply Chain และ Partner – มีพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่งและพร้อมสนับสนุนการเติบโตหรือไม่

พาร์ตเนอร์ = เพื่อนร่วมทาง

สยุมรัตน์ ยกเคสตัวอย่างที่ UOB ได้นำ FSCM (Financial Supply Chain Management) ซึ่งเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์มาช่วย SME ที่ขายของให้ Big C รับเงินเร็วขึ้น เพิ่มสภาพคล่อง ลดปัญหาเงินขาดมือ พร้อมแนะวิธีเลือกพาร์ตเนอร์ ต้องพิจารณา 5 เกณฑ์สำคัญ คือ

ความน่าเชื่อถือ
ความสามารถในการสื่อสาร
ความยืดหยุ่น
มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน
ความโปร่งใสและจริยธรรม

UOB กับบทบาท ‘พันธมิตรทางธุรกิจ’

UOB ไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่ผู้ให้สินเชื่อกับ SME แต่วางตัวเป็น พันธมิตรทางธุรกิจ จึงมาพร้อมโซลูชันครบวงจรเพื่อสนับสนุนซัพพลายเชนของ SME

ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์: มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ทั้งเรื่องการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบดิจิทัล และการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ (FDI Advisory)
สร้างเครือข่ายธุรกิจ: ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยง SME เข้ากับบริษัทขนาดใหญ่ ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มความน่าเชื่อถือ ผ่านโซลูชันทางการเงิน, แพลตฟอร์มดิจิทัลแบบครบวงจร FSCM และเครือข่ายธุรกิจ บริการ FDI Advisory และ UOB FinLab
สนับสนุนด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล: UOB BizSmart ให้บริการโซลูชันดิจิทัลหลากหลายผ่านพาร์ตเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มความแม่นยำในสต็อกและต้นทุน ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน สามารถติดตามธุรกิจแบบเรียลไทม์

อนาคตและความท้าทายของซัพพลายเชน

ความคาดหวังของลูกค้า ความเร็ว ความโปร่งใส และความถูกต้องยังคงเป็นหัวใจสำคัญ
เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการซัพพลายเชนในอนาคต
ความยั่งยืน จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของสินค้า SME ที่ปรับตัวก่อนจะได้เปรียบ

สยุมรัตน์ แนะ SME ควรเก็บข้อมูลให้ครบและพัฒนาทักษะของทีม ลงทุนในระบบที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ “มอง Supply Chain เป็นกลยุทธ์ไม่ใช่แค่ต้นทุน หมั่นสร้างความสัมพันธ์กับ Supplier และ Partner ด้วย”

7 ข้อคิดสำหรับ SME ที่จะใช้ Financial Supply Chain

เงินสดหมุนเวียนคือออกซิเจนของธุรกิจ
ใช้ความน่าเชื่อถือของคู่ค้าเพื่อเพิ่มเครดิตของเรา
สร้างความสัมพันธ์แบบ Win-Win กับคู่ค้า
ลดความเสี่ยงจากหนี้เสียและสภาพคล่อง
ใช้ Supply Chain เป็นกลยุทธ์เติบโตไม่ใช่แค่แก้เงินขาดมือ
เลือกพาร์ทเนอร์ที่ใช้ เพราะเพื่อนร่วมทางที่ดีคือหัวใจสำคัญของการเติบโตที่ยั่งยืน
ทำธุรกิจด้วยความโปร่งใสและบริหารข้อมูลให้ดี