สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก วานนี้ (27 กันยายน)
โดยกล่าวย้ำความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของประเทศไทยต่อหลักการพหุภาคี และนำเสนอวิสัยทัศน์และบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความแตกแยกมากขึ้น จากลัทธิปกป้องผลประโยชน์ การแยกตัว ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ขณะที่สีหศักดิ์ ยังใช้โอกาสนี้ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและแสดงตนเป็นเหยื่อในเหตุการณ์ความขัดแย้งชายแดนที่เกิดขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายข้อพิพาทไปสู่ระดับนานาชาติ
และนี่คือถ้อยแถลงทั้งหมดแบบ ‘คำต่อคำ’
ท่านประธานสมัชชาฯ
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย
คณะผู้แทนที่เคารพ
ก่อนอื่น ผมขอแสดงความยินดีต่อการเข้ารับหน้าที่ประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ของประธานสมัชชาฯ
แม้ผมจะเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญต่อการมอบหมายให้ผมเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ เพราะเราเชื่อว่าช่วงเวลานี้สำคัญยิ่ง เนื่องจากการครบรอบ 80 ปี ของ สหประชาชาติ เป็นช่วงเวลาที่สหประชาชาติกำลังเผชิญความท้าทายสำคัญ
ผมขอเริ่มต้นด้วยการย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของประเทศไทยต่อระบอบพหุภาคี
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า โลกยังคงต้องการสหประชาชาติ และสหประชาชาติก็ต้องการเราทุกคน แต่เพื่อให้สหประชาชาติบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างแท้จริง สหประชาชาติจะต้องพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
ประเทศไทยก็ยืนอยู่บนทางเส้นทางของช่วงการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญเช่นกัน โดยกำลังเผชิญกับความท้าทายเร่งด่วนภายในประเทศ ซึ่งเราไม่สามารถเสียเวลาต่อไปได้อีก วิสัยทัศน์ของเรานั้นกว้างไกลกว่าชายแดน เรามองสู่โลกกว้าง เพราะเรามีความปรารถนาเช่นเดียวกับทุกประเทศที่จะเห็นโลกที่สงบสุข ยุติธรรม และครอบคลุม
ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยจึงพร้อมที่จะมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ที่จะสร้างสหประชาชาติให้เป็นองค์กรที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการมอบสันติภาพ การพัฒนา และสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคนอย่างแท้จริง
ท่านประธานสมัชชาฯ
หัวข้อของการอภิปรายทั่วไปของปีนี้ – “น้ำหนึ่งใจเดียวกัน” – ย้ำเตือนเราว่าสหประชาชาติจะเข้มแข็งที่สุดเมื่อเราร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว
เป็นประชาคมหนึ่งเดียว
ประการแรก เราต้องรวมตัวเป็นประชาคมหนึ่งเดียว
แปดสิบปีก่อน ประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมกันรับรองกฎบัตรสหประชาชาติที่เปี่ยมด้วยความหวังต่อสันติภาพ แต่ในวันนี้ เรากลับยังคงต้องเผชิญกับการแบ่งแยกที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากนโยบายกีดกันทางการค้า ความแตกแยก ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไม่ละเว้นประเทศไหน
สงครามในยูเครนซึ่งยืดเยื้อมาถึงปีที่สาม ยังคงสร้างความทุกข์ทรมานและความเสียหาย เช่นเดียวกับความทุกข์ทรมานอันแสนสาหัสในกาซ่าที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็ก ที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดนั้น ได้สร้างความเศร้าสลดต่อจิตสำนึกต่อส่วนรวมของเราอย่างยิ่ง อันเป็นเครื่องเตือนใจว่า เมื่อสันติภาพถูกทำลาย ความสูญเสียจะไม่ได้ตกอยู่กับประเทศต่าง ๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังตกอยู่กับประชาชนธรรมดาที่ชีวิตต้องถูกทำลาย
ในการเป็นประชาคมหนึ่งเดียวกัน ทุกประเทศต่างมีส่วนรับผิดชอบในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก
ความรับผิดชอบนี้จะต้องครอบคลุมทุกคน พหุภาคีนิยมจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเมื่อสตรีมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะในภารกิจรักษาสันติภาพ การป้องกันความขัดแย้ง หรือการตอบสนองด้านมนุษยธรรม เสียงและการเป็นผู้นำของสตรีเหล่านั้นได้สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนของเรา และทำให้สันติภาพยั่งยืนยิ่งขึ้น ผมจึงมั่นใจว่าการที่ท่านประธานสมัชชาฯ ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้นำของสมัชชาแห่งนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราทุกคนขับเคลื่อนวาระสตรีของสหประชาชาติด้วยความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ยิ่งขึ้น
ประเทศไทยตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในส่วนของเรา โดยกองกำลังรักษาสันติภาพของไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ในทุกมุมโลก เพื่อช่วยฟื้นฟูวิถีชีวิตของผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
ภายในประเทศ ไทยได้ดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ปนเปื้อนไปแล้วกว่าร้อยละ 99 ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยการดำเนินการของไทยไม่ได้เป็นเพราะต้องปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาฯ แต่เป็นการคืนพื้นที่ให้แก่ชุมชน เพื่อให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตและเติบโต โดยเป็นการทำตามหน้าของเราที่มีต่อประชาชน
การปกป้องผู้คนในประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจที่ต้องกระทำ เรายังคงต้องรับมือกับความท้าทายข้ามชาติ อาทิ การโยกย้ายถิ่นฐานที่เกิดจากความขัดแย้งและภัยพิบัติ ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นบททดสอบร่วมกันที่ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขได้โดยลำพัง
ประเด็นเหล่านี้เป็นภารกิจที่แท้จริงของประเทศไทย เราได้ให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นจากเมียนมามาเป็นเวลากว่าสี่ทศวรรษ และปัจจุบัน เราได้เพิ่มโอกาสให้แก่พวกเขาโดยอนุญาตให้ทำงานนอกพื้นที่พักพิงชั่วคราว เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและมีส่วนสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคม การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของไทยในด้านการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยได้ยกระดับความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยอาชญากรรมที่ไร้พรมแดนต้องอาศัยความร่วมมือไร้พรมแดนด้วยเช่นกัน
วิสัยทัศน์ของการเป็นประชาคมหนึ่งเดียวกันต้องเริ่มต้นจากเรื่องใกล้ตัว ภูมิภาคต่าง ๆ เป็นรากฐานสำคัญของประชาคมโลก โดยในภูมิภาคของเรา สันติภาพและเสถียรภาพยังเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างประชาคมระหว่างประเทศภายใต้อาเซียน
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีอยู่ระหว่างเพื่อนบ้านด้วยกัน สถานการณ์ในเมียนมายังคงน่าห่วงกังวลอย่างยิ่ง โดยประเทศไทยได้ทำหน้าที่ของเราด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามแนวชายแดน และยังคงสนับสนุนให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการเจรจาและมุ่งสู่กระบวนการสันติภาพที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมา
แม้แต่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด ความขัดแย้งระหว่างกันก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยต้องยอมรับว่าสถานการณ์กับกัมพูชาในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นที่พึงปรารถนาหรือเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรื่อง ของเราล้วนมีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างใกล้ชิด เราไม่อาจแยกออกจากกันได้ เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียนเดียวกัน
เช้าวันนี้ ผมตั้งใจที่จะกล่าวในประเด็นที่ต่างจากนี้และในเชิงบวกที่สะท้อนถึงความหวังสำหรับอนาคต แต่ผมจำเป็นแก้ไขถ้อยแถลงนี้ใหม่เพราะคำกล่าวที่น่าผิดหวังโดยเพื่อนกัมพูชาของผม เป็นที่น่าเสียใจว่ากัมพูชายังคงสร้างภาพให้ตนเป็นผู้ถูกกระทำ กัมพูชาได้ให้ข้อเท็จจริงในแบบฉบับของตนที่ไม่สามารถยืนยันได้เมื่อถูกตรวจสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งก็เป็นเพราะว่าสิ่งที่กล่าวเป็นการบิดเบือนความจริง
เราต่างรู้ว่าใครคือผู้ถูกกระทำที่แท้จริง ผู้ถูกกระทำที่แท้จริงคือ ทหารไทยที่ต้องสูญเสียขาจากทุ่นระเบิด คือเด็ก ๆ ที่โรงเรียนถูกโจมตี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังจับจ่ายซื้อของในวันนั้นที่ร้านสะดวกซื้อที่ถูกโจมตีจากจรวดของฝ่ายกัมพูชา
เมื่อวานนี้ ผมได้พบกับเพื่อนกัมพูชาที่สหประชาชาติแห่งนี้ เราได้พูดคุยกันในเรื่องสันติภาพ การเจรจา ความไว้ใจ และความเชื่อมั่น ประเด็นเหล่านี้ ได้รับการยืนยันในการหารืออย่างไม่เป็นทางการสี่ฝ่าย จัดโดยสหรัฐอเมริกา เราขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์สำหรับความมุ่งมั่นต่อสันติภาพของท่าน
แต่เป็นที่น่าเสียใจว่า คำกล่าวของกัมพูชาในวันนี้ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับคำกล่าวในการหารือเมื่อวาน โดยคำกล่าวของกัมพูชาได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของเขา คำกล่าวหาของกัมพูชานั้นเป็นสิ่งที่คลาดเคลื่อนอย่างมากจนทำให้ความจริงดูเหมือนเป็นเรื่องตลก
ตั้งแต่เริ่มแรก กัมพูชาเป็นผู้ริเริ่มความขัดแย้งด้วยความตั้งใจที่จะขยายข้อพิพาทชายแดนไปสู่ความขัดแย้งระดับชาติ และทำให้เป็นประเด็นระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้
หมู่บ้านที่กัมพูชาอ้างถึงในคำกล่าวก่อนหน้านี้ตั้งอยู่ในเขตแดนของประเทศไทย โดยตามข้อเท็จจริง หมู่บ้านเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะ ประเทศไทยได้ตัดสินใจด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรมที่จะเปิดชายแดนในช่วงปลายทศวรรษ 1970 เพื่อให้ประชาชนหลายแสนคนได้หลบหนีจากสงครามกลางเมืองและมีที่พักพิงในประเทศไทย เราได้ตัดสินใจบนหลักการของความเมตตาและมนุษยธรรม ผมได้เห็นภาพดังกล่าวด้วยตนเอง เมื่อครั้งผมยังเป็นเพียงเป็นนักการทูตผู้น้อย
แม้ว่าสงครามกลางเมืองได้สิ้นสุด และที่พักพิงได้ปิดตัวลง แต่หมู่บ้านของกัมพูชายังคงขยายขอบเขตตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้ว่าประเทศไทยได้พยายามที่จะประท้วงอย่างต่อเนื่อง แต่ฝ่ายกัมพูชายังคงเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องที่จะจัดการกับปัญหาการบุกรุกดังกล่าว
เมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาภายหลังจากข้อตกลงสันติภาพปารีส ค.ศ. 1991 ประเทศไทยได้ช่วยสร้างและฟื้นฟูให้กัมพูชาสามารถรักษาสันติภาพของชาติตนได้ เราได้ช่วยสร้างบ้านเรือน ถนน และโรงพยาบาล เพราะว่าสันติภาพของกัมพูชานั้นเป็นผลประโยชน์ของไทยด้วยเช่นกัน และนี่คือสิ่งที่ประเทศเพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน
ท่านประธานสมัชชาฯ
ข้อตกลงหยุดยิงยังคงเปราะบาง เราจำเป็นต้องทำให้ข้อตกลงนี้เกิดผล ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการกระทำที่จริงใจจากทั้งสองฝ่าย
เป็นที่น่าเสียใจว่า กัมพูชายังคงยั่วยุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการระดมพลเรือนเข้ามาในเขตแดนของไทยและยิงเข้ามาทางฝั่งของเรา ถือเป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและความมั่นคงตามแนวชายแดน ผมหมายความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2568 ที่กองกำลังกัมพูชาได้ยิงใส่กองกำลังไทยที่ประจำอยู่บริเวณชายแดน โดยเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในวันนี้ กองกำลังไทยยังได้ตรวจพบโดรนลาดตระเวนของฝ่ายกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาดินแดนไทยทุกวันบริเวณชายแดน การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และข้อตกลงหยุดยิงที่ได้เห็นชอบร่วมกันในการประชุมสมัยพิเศษที่เมืองปุตราจายา มาเลเซีย และได้รับการยืนยันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับทวิภาคี
โปรดอย่าได้มีข้อสงสัยต่อการยึดหยัดเพื่อสันติภาพของไทย และไทยจะดำเนินการทุกวิถีทางที่สามารถกระทำได้เพื่อหาทางออกโดยสันติต่อปัญหากับกัมพูชา ในขณะเดียวกัน ไทยจะยังคงยืนหยัดเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพของดินแดนของเรา โดยเราขอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับเราเพื่อแก้ไขความแตกต่างผ่านการหารือโดยสันติและกลไกที่มีอยู่
ในวันนี้ ประเทศของเราทั้งสองต้องตัดสินใจเลือกเส้นทาง ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนบ้านและมิตรกัน ประเทศไทยขอถามกัมพูชาว่า จะเลือกเส้นทางใด เส้นทางของการเผชิญหน้าหรือเส้นทางของสันติภาพและความร่วมมือ
ประเทศไทยขอเลือกเส้นทางแห่งสันติภาพ เพราะเราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนของทั้งสองประเทศสมควรได้รับ แต่เราก็ยังมีข้อสงสัยว่ากัมพูชาตั้งใจที่จะร่วมมือกับเราในการมุ่งสู่สันติภาพหรือไม่
สำหรับประเทศไทย การเจรจา ความไว้วางใจ และความสุจริตใจ ไม่ใช่เป็นเพียงคำพูด แต่คือหนทางในการเดินต่อไปภายหน้า เราจะยังคงยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ในการดำเนินความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่าง ๆ ทั้งในอาเซียนและนอกเหนือออกไป รวมถึงมหาอำนาจต่าง ๆ เพื่อมุ่งสู่การมีสันติภาพที่ยั่งยืนและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
การกล่าวถึงการเป็นประชาคมหนึ่งเดียวกันเป็นการย้ำว่า เราต่างผูกพันกันด้วยหลักการร่วมกันที่ว่า ทุกคนเกิดมาอย่างเสรีและเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีและสิทธิ
ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน วาระปี ค.ศ. 2025-2027 และประธานคณะกรรมการ 3 ของสมัชชาสหประชาชาติ เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนของทุกคน
สำหรับเรา ความมุ่งมั่นนี้ไม่ใช่เพียงเพราะการได้เป็นสมาชิกในเวทีเหล่านั้น แต่เป็นความมุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของผู้ที่ต้องเผชิญกับความขัดแย้ง ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่กับความพิการ และผู้ที่มักถูกละเลยหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
การส่งเสริมสิทธิของสตรีและเด็กหญิงเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามครั้งนี้ด้วยเช่นกัน การมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม และการรอดพ้นจากความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติ มิใช่เป็นเพียงสิทธิของมนุษย์เท่านั้น แต่คือรากฐานของสังคมที่เป็นธรรมและสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง
สุขภาพเป็นอีกหนึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่ง การรับประกันการเข้าถึงการรักษาพยาบาลไม่ใช่เป็นเพียงการช่วยชีวิตเท่านั้น แต่คือ การมอบโอกาสให้ทุกคนได้มีชีวิตที่เปี่ยมด้วยศักดิ์ศรีและความมั่นคง
ด้วยเหตุผลนี้ ประเทศไทยจึงเป็นผู้นำในเรื่องสิทธิทางสุขภาพ ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นลำดับแรก เพื่อไม่ให้มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทุกชุมชนจะได้รับเครื่องมือเพื่อการเติบโต
ประเทศไทยยังได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการเกี่ยวกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและการเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาด ซึ่งรวมถึงความตกลงว่าด้วยการระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก เราไม่รู้ว่าการระบาดใหญ่ ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด และเราจะพร้อมรับมือได้ก็ต่อเมื่อเราได้เตรียมความพร้อมและร่วมมือกัน
ท่านประธานสมัชชาฯ
สันติภาพและสิทธิมนุษยชนไม่อาจดำรงอยู่ได้หากปราศจากการพัฒนาที่ยั่งยืน ถึงกระนั้น การพัฒนาในปัจจุบันยังคงถูกคุกคามจากการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าอาจสร้างประโยชน์ในระยะสั้น แต่กลับทำร้ายเราในระยะยาว และแบ่งแยกเราในยามที่เราต้องการความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างที่สุด
ประเทศไทยเชื่อมั่นว่า ความเจริญรุ่งเรืองที่แท้จริงไม่ได้สร้างขึ้นบนกำแพงภาษี แต่สร้างบนสะพานแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ
หนทางข้างหน้าของเราคือ การค้าที่เปิดกว้างและเป็นธรรม ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและครอบคลุม แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนมิได้หมายถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของค่านิยมที่เรายึดถือ และการสร้างสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความก้าวหน้าและการอนุรักษ์
ด้วยเหตุนี้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความสมดุล ความยืดหยุ่น และความพอเพียง จึงเป็นสิ่งนำทางการพัฒนาของประเทศไทย ปรัชญานี้ย้ำเตือนเราว่าความก้าวหน้าที่แท้จริงต้องเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน ควบคู่ไปกับการปกป้องโลก
โดยที่เหลือเวลาอีกเพียงห้าปีเท่านั้นในการที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เราจึงต้องเสริมสร้างความร่วมมือในทุกระดับ และต่อสู้กับความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงินที่ยังคงฉุดรั้งอนาคตร่วมกันของเรา
ในขณะเดียวกัน เราต้องไม่ลืมว่า โลกใบนี้คือ หัวใจหลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ของพวกเรา กำลังทำให้ช่องว่างระหว่างผู้ที่มีและผู้ที่ไม่มี ยิ่งกว้างขึ้น หากปราศจากการสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจะล้มเหลวทั้งต่อประชาชน และโลกของเรา
คำมั่นเดียวกัน
ท่านประธานสมัชชาฯ
เนื่องในโอกาสที่สหประชาชาติมีอายุครบ 80 ปี ภารกิจของเรานั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นั่นคือ การมาร่วมกันภายใต้คำมั่นเดียวกัน
เราทุกคนผูกพันกับอุดมการณ์ บรรทัดฐาน และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ แต่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การสานต่อคำมั่นภายใต้ระบบพหุภาคีไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป
แต่ความจริงก็คือ ประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติล้วนเต็มไปด้วยคำสัญญาที่ไม่ได้เคยได้รับการปฏิบัติตาม คำมั่นที่ไม่ได้รับการตอบรับนั้นบั่นทอนความน่าเชื่อถือ และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน หากสหประชาชาติจะยังคงเป็นหัวใจสำคัญของระบอบพหุภาคี เราไม่อาจปล่อยให้วัฏจักรนี้ดำเนินซ้ำไปเช่นเดิม
นั่นคือเหตุผลที่เอกสาร “คำมั่นเพื่ออนาคต” ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อปีที่แล้ว จะต้องเป็นต้นแบบของการปฏิบัติ เพื่อสร้างความคืบหน้าอย่างแท้จริง ประเทศต่าง ๆ จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับคำมั่นที่ให้ไว้
แต่การที่สหประชาชาติจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามอาณัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ สหประชาชาติจำเป็นที่จะต้องได้รับทรัพยากรที่ต้องการ รัฐสมาชิกทุกประเทศจะต้องปฏิบัติตามคำมั่นทางการเงินของตน เพื่อให้สหประชาชาติยังสามารถทำหน้าที่ขับเคลื่อนวาระด้านสันติภาพและการพัฒนาได้
อนาคตเดียวกัน
ประธานสมัชชาฯ
ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะปรับปรุง ฟื้นฟู และปฏิรูปสหประชาชาติ เราจะต้องดำเนินการโดยมุ่งไปสู่การมีอนาคตเดียวกัน
เพื่อให้สหประชาชาตินำเราไปสู่อนาคตที่เราต้องการ การปฏิรูปสหประชาติอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง สหประชาชาติจะต้องเพิ่มการมีส่วนร่วม เพิ่มความโปร่งใส เพิ่มความรับผิดชอบ และต้องเหมาะสมกับอนาคต ด้วยการเป็นเอกภาพในการลงมือทำ มีความเกี่ยวเนื่องกับผู้คน และการปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลง
ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยสนับสนุนข้อริเริ่ม UN80 ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของการปิดช่องว่างทางการเงินเท่านั้น แต่เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้สหประชาชาติกลับมาเชื่อมโยงกับประชาชนซึ่งเป็นผู้ที่สหประชาชาติรับใช้
แต่ในขณะที่เราสร้างความเข้มแข็งให้กับสหประชาชาติ เราจำเป็นต้องตระหนักถึงข้อจำกัดของสหประชาชาติด้วยเช่นกัน ระบบพหุภาคีนั้นใหญ่กว่าสหประชาชาติเพียงลำพัง ระบบพหุภาคีจะเจริญรุ่งเรืองได้ก็ต่อเมื่อมีรากฐานมาจากระบบภูมิภาคที่เข้มแข็ง องค์กรระดับภูมิภาคคือผู้ตอบสนองต่อวิกฤติต่าง ๆ เป็นลำดับแรก คือผู้สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน และจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคำมั่นระดับโลกและความเป็นจริงในพื้นที่
สำหรับประเทศไทย อาเซียนคือบ้านและศูนย์กลางของเรา การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15 ในเดือนหน้า จะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนหลักการร่วมกันให้เป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะผลักดันความร่วมมือนี้ เพื่อให้เสียงของภูมิภาคได้รับการรับฟังอย่างเต็มที่ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาระดับโลก
การสร้างประชาคมโลกที่เข้มแข็งนั้นไกลเกินกว่ายุคของเรา ด้วยเหตุนี้ เราต้องยอมรับถึงพลังของเยาวชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี แผนปฏิบัติการโลกว่าด้วยเยาวชน ประเทศไทยขอย้ำความมุ่งมั่นที่จะเสริมพลังให้แก่เยาวชน ลงทุนเพื่อศักยภาพของพวกเขา และให้โอกาสในการเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
ด้วยแนวคิดนี้ ประเทศไทยจึงมีความภูมิใจที่มีผู้แทนเยาวชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ซึ่งผู้แทนเหล่านั้นจะได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของอนาคตที่พวกเขามุ่งหวัง
เพราะท้ายที่สุดแล้ว อนาคตเป็นของพวกเขา ดังนั้น พวกเขาจึงควรได้สร้างอนาคตด้วยตนเอง
ท่านประธานสมัชชาฯ
ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย
คณะผู้แทนที่เคารพ
ในวาระครบรอบ 80 ปี สหประชาชาติจะต้องสมกับนามที่ตั้งไว้ นั่นคือ ชาติที่ยืนหยัดอย่างเป็นเอกภาพ เรามารวมตัวกันที่นี่ ไม่เพียงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จที่ผ่านมาเท่านั้น แต่เพื่อมองไปยังอนาคตข้างหน้าถึงสิ่งที่เราสามารถจะบรรลุร่วมกันได้อีก
บทเรียนจากแปดสิบปีนั้นชัดเจน เราจะแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราเป็นประชาคมหนึ่งเดียวกัน มีคำมั่นเดียวกัน และร่วมกันสร้างอนาคตเดียวกัน ซึ่งเป็นความหมายที่แท้จริงของคำว่า เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ประเทศไทยขอให้คำมั่นว่าจะทำหน้าที่ของเรา แต่ยิ่งไปกว่านั้น เราขอท้าทายตัวเราเองและมิตรประเทศ ณ ที่นี้ ที่จะเปลี่ยนคำพูดเป็นการกระทำ นั่นคือวิธีที่เราจะทำให้แปดสิบปีต่อไปข้างหน้านั้นดีกว่าที่ผ่านมา
ขอบคุณครับ