วันนี้ (27 กันยายน) ชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษชน สภาผู้แทนราษฎร ร่วมสัมมนาในหัวข้อ ‘กรอบกฎหมายและกลไกระดับนานาชาติในการจัดการผลกระทบจากการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในรัฐฉานและเมียนมา’ จัดโดยคณะกรรมาธิการฯ ร่วมกับศูนย์แม่โขงศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก-สาย-โขง
ในเวทีชวลิตได้กล่าวเปิดงาน ขอบคุณผู้จัดและภาคประชาชนที่ร่วมผลักดันปัญหาสิ่งแวดล้อม ก่อนย้ำถึงผลกระทบจากมลพิษเหมืองแร่แรร์เอิร์ธที่ไหลข้ามพรมแดนสู่แม่น้ำสำคัญของไทย กระทบสุขอนามัย ประมง เกษตร และการท่องเที่ยว
ชวลิตระบุว่า การแก้ปัญหาต้องทำที่ ‘ต้นเหตุ’ คือเหมืองในต่างแดน พร้อมชี้ว่าไทยเป็นภาคีทั้งคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) และความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง (LMC) จึงควรใช้กลไกเหล่านี้ควบคู่ไปกับการประสาน ‘จีน’ ในฐานะมหามิตรและผู้มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค
ชวลิตเผยข้อมูลว่า ผู้ประกอบการเหมืองจำนวนมากเป็นชาวจีน ที่มักเลี่ยงกฎหมายสิ่งแวดล้อมในบ้านเกิดด้วยการไปลงทุนในเมียนมา ภายใต้อิทธิพลชนกลุ่มน้อย ทำให้ทิ้งมลพิษลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ และไหลเข้าสู่ไทย
ชวลิตแนะว่า ภาคประชาชนควรรวบรวมข้อมูลผลกระทบส่งต่อกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานสถานทูตจีนตรวจสอบ หากยืนยันเป็นผู้ประกอบการจีนจริง ก็ควรบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้มงวดเช่นเดียวกับในประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าทางการจีนไม่ต้องการให้คนของตนละเมิดกฎหมายในต่างแดน
พรรคไทยสร้างไทยยังเสนอให้รัฐบาลชุดปัจจุบันและอนาคต กำหนดปัญหามลพิษจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ธเป็น ‘นโยบายเร่งด่วน’ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำสายสำคัญของประเทศ