เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส รวมถึงผู้นำจากอีกหลายชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, และโมนาโก ประกาศรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ ขณะที่ฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพร่วมในห้วงการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ครั้งนี้ที่มหานครนิวยอร์ก
นอกจากนี้ ผู้นำจากอันดอร์รา และเบลเยียมก็ประกาศจะรับรองสถานะ ‘ความเป็นรัฐ’ ของปาเลสไตน์ในทางกฎหมาย ก็ต่อเมื่อตัวประกันทั้งหมดได้รับการปล่อยตัว และองค์กรก่อการร้ายอย่างฮามาสถูกกำจัดไปจากดินแดนปาเลสไตน์แล้วเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ผู้นำจาก ออสเตรเลีย, แคนาดา, โปรตุเกส, และสหราชอาณาจักร ก็ได้แสดงจุดยืนดังกล่าว เพื่อสนับสนุน ‘แนวทางสองรัฐ’ (Two State Solution) ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่มีมาอย่างยาวนาน
ปัจจุบัน มีประเทศสมาชิกสหประชาชาติอย่างน้อย 155 จากทั้งหมด 193 ประเทศ ประกาศรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์แล้ว
มาครงชี้ว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะแสดงความรับผิดชอบและทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อรักษาความเป็นไปได้ของแนวทางแก้ไขแบบสองรัฐ
การรับรองนี้ เกิดขึ้นในขณะที่อิสราเอลยังคงเดินหน้าทำ ‘สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ ในฉนวนกาซา ซึ่งมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 65,300 คน และพื้นที่ดังกล่าวถูกทำลายจนกลายเป็นซากปรักหักพัง
ทางด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ยืนยันการสนับสนุนแนวทางสองรัฐ โดยระบุว่าการมีสถานะรัฐสำหรับชาวปาเลสไตน์เป็น “สิทธิ ไม่ใช่รางวัล” ซึ่งเป็นการปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของสหรัฐฯ และอิสราเอลที่อ้างว่า “การรับรองนี้คือ รางวัลสำหรับกลุ่มฮามาส”
มาครงยังได้ สรุปกรอบการทำงานสำหรับการจัดตั้ง ‘หน่วยงานปาเลสไตน์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่’ (Renewed Palestinian Authority) โดยกรอบการทำงานหลังสงครามนี้คาดการณ์ถึงการมี ‘กองกำลังรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศ’ (International Stabilisation Force – ISF) ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือในการเตรียมความพร้อมแก่หน่วยงานปาเลสไตน์ (PA) เพื่อเข้ารับช่วงต่อในการปกครองในฉนวนกาซา
ขณะที่ มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ชื่นชมประเทศต่างๆ ที่ให้การรับรอง และเรียกร้องให้มีการสนับสนุน ‘การเป็นสมาชิกสหประชาชาติอย่างเต็มรูปแบบของปาเลสไตน์’
โดย เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน อัล ซาอูด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ยืนยันว่า แนวทางแก้ไขแบบสองรัฐเป็น “หนทางเดียวที่จะบรรลุสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน”
ทางฟากฝั่งของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของอิสราเอล วิจารณ์การรับรองนี้ โดยกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะ ส่งเสริมและสนับสนุนฮามาส ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เชื่อว่า นี่คือ “รางวัลแก่ฮามาส” เช่นเดียวกัน
แม้องค์การสหประชาชาติส่วนใหญ่จะรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์แล้ว แต่การเป็นสมาชิกสหประชาชาติอย่างเต็มรูปแบบต้องได้รับการสนับสนุนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่ง สหรัฐฯ ได้ใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ขัดขวางปาเลสไตน์มาโดยตลอด
ส่วน เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลก็ยืนยันว่า เขาจะไม่อนุญาตให้มีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์อย่างเด็ดขาด ซึ่งนั่นอาจทำให้ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก
ภาพ: Eduardo Munoz / Reuters
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2025/09/22/middleeast/france-palestine-state-recognition-united-nations-intl-latam
- https://www.aljazeera.com/news/2025/9/22/france-recognises-palestinian-state-ahead-of-the-unga-meeting
- https://www.rtbf.be/article/direct-guerre-au-proche-orient-quels-pays-s-appretent-a-reconnaitre-l-etat-palestinien-ce-lundi-11605109
