สำหรับแฟนมวยปล้ำทั่วไป ต่างก็เข้าใจตรงกันว่า ปี 2025 ควรจะเป็นปีแห่งการอำลาสังเวียนมวยปล้ำของ John Cena ชายผู้เป็รตำนานและหนึ่งในคนที่ถูกยกย่องว่าเป็น ‘GOAT’ (Greatest of All Time) ของ WWE
ทว่าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา…กลับกลายเป็นปีที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง และการตัดสินใจที่สร้างบาดแผลในใจแฟนๆ อย่างไม่น่าให้อภัย จากทีมเขียนบทของ WWE
ศึกใหญ่ Wrestlepalooza 2025 คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุด เมื่อซีน่าพ่ายแพ้ต่อบร็อก เลสเนอร์แบบหมดสภาพภายในเวลาเพียง 8 นาที 50 วินาที ราวกับย้อนกลับไปยังค่ำคืนอันเจ็บปวดใน SummerSlam 2014
เพราะความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่เพียงสร้างความช็อกให้แฟนๆ แต่สิ่งนี้มันเป็นเหมือนกระจกสะท้อนว่า WWE อาจกำลังละเลยและไม่ให้เกียรติชายเป็นเป็นเสาหลักของสมาคมมากว่า 10 ปี ในทัวร์อำลาของเขาเลย
และต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า WWE กำลัง ‘ทำลาย’ งานเลี้ยงอำลาของ John Cena ในแบบที่แฟนๆ ยากจะให้อภัย
การพลิกบทเป็นอธรรม ทำลายภาพลักษณ์ Hustle, Loyalty, Respect
John Cena เป็นที่รู้จักในฐานะ ‘The Face’ ของ WWE ด้วยคติประจำตัว “Hustle, Loyalty, Respect” ที่เป็นหัวใจของตัวละครมาตลอดหลายปี เขาคือคนที่ไม่เคยบ่นวอแว ไม่เคยเรื่องมาก ไม่ว่าจะให้ทำอะไร เขาก็ทำเต็มที่ ไม่เคยเลือกคู่ต่อสู้ แม้จะเป็นช่วงทัวร์อำลาของตัวเองก็ตาม
แต่ในปี 2025 WWE กลับตัดสินใจพลิกบทให้ซีน่ากลายเป็น ‘อธรรม’ (Heel) ซึ่งเป็นการทำลายภาพลักษณ์ที่เขาสร้างมาอย่างยาวนาน แม้ในช่วงแรกบทบาทใหม่นี้จะสร้างกระแสไวรัลไปทั่วโลก
แต่ในความจริงแล้วมันคือการบังคับให้ Cena ต้องทิ้งสิ่งที่เขายึดถือมาตลอดอาชีพ การเป็นอธรรมที่ขัดแย้งกับตัวตนแท้จริง ทำให้แฟนๆ รู้สึกว่าเขาถูกลดคุณค่าและไม่ได้รับการเคารพในฐานะตำนาน
และคำถามที่ตามมาคือ…มันน่าจะดีกว่าหรือไม่ ถ้า Cena ได้เดินไปจนสุดทางกับภาพลักษณ์ที่เขาสร้างมาตลอดชีวิต เพื่อปิดฉากอาชีพนี้อย่างสมเกียรติ?
บทอธรรมที่ล้มเหลวและการถูกทิ้งไว้กลางทาง
สิ่งที่น่าผิดหวังยิ่งกว่าคือ บทอธรรมของซีน่าถูกเขียนขึ้นอย่างไม่รัดกุม โดยเฉพาะเมื่อ The Rock (Dwayne Johnson) คือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดนี้ แต่กลับหายเข้ากลีบเมฆไปจากบททันทีหลังศึก Elimination Chamber วันที่ทำให้ซีน่ายอมทิ้งคาแรกเตอร์ที่เขายึดมั่นมานานร่วม 20 ปี และเปลี่ยนมาเป็นอธรรมอย่างสมบูรณ์
จากนั้น The Rock ก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย ทิ้งให้ซีน่าต้องด้นสดทุกสัปดาห์ที่มีคิวออกมา โดยไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการสบถคำหยาบ ด่ากราดผู้ชมอย่างไร้ทิศทาง บทที่ควรจะทรงพลัง กลับกลายเป็นสิ่งที่ถูกดันทุรังอยู่นานจนพาไปไม่ถึงไหน
สุดท้าย เมื่อถึงช่วงก่อน SummerSlam 2025 เพียงหนึ่งสัปดาห์ WWE ต้องเปลี่ยนแผนแบบกะทันหัน ให้ซีน่ากลับมาเป็น ‘ธรรมะ’ อีกครั้ง และขึ้นสังเวียนเจอกับ Cody Rhodes เพื่อส่งไม้ต่อให้กับพระเอกคนใหม่ของสมาคม ภาพที่หลายคนมองว่านี่ควรเป็นโมเมนต์ใหญ่ที่เกิดขึ้นใน WrestleMania 41 ด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ทำให้เรื่องราวที่ควรจะเป็นการอำลาอันยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็นความสับสน ไร้ทิศทาง และสะท้อนการบริหารจัดการที่ย่ำแย่ จนมองเห็นแบบชัดเจนว่า WWE ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปิดฉากอาชีพของ Cena อย่างที่เขาสมควรได้รับเลย
แชมป์โลกสมัยที่ 17 ที่ไร้เกียรติ
จริงอยู่ว่าหลายคนดีใจที่ได้เห็นซีน่าคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 17 ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ WWE แต่ในความเป็นจริงก็คือ มันไม่ได้ดูดีอย่างที่ควรจะเป็นเลย
เพราะการครองแชมป์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เขาถูกบังคับให้เป็นอธรรม ตัวโกงที่ไร้เกียรติ ทำให้แชมป์สมัยนี้แทบไม่มีความหมายเมื่อเทียบกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอดีตของเขา
สิ่งที่ควรจะเป็นจุดสูงสุดของอาชีพ กลับกลายเป็นเพียงหนึ่งบทที่ไม่สมบูรณ์ ขาดความเคารพต่อตัวตนของซีน่าเอง และแม้แต่เจ้าตัวก็คงรู้ดีอยู่ในใจ…ว่านี่คือการถือแชมป์ที่เสียเปล่าไม่น้อย!
ไม่ได้ปล้ำแมตช์สุดท้ายในบ้านเกิด
หนึ่งในความเจ็บปวดที่สุดสำหรับแฟนๆ และตัวซีน่าเอง คือการที่แมตช์สุดท้ายอำลาอาชีพของเขา เดิมทีควรจะถูกจัดขึ้นที่ บอสตัน บ้านเกิดของเขา แต่กลับถูกเปลี่ยนไปที่ วอชิงตัน ดี.ซี. เพียงเพราะบอสตันไม่สามารถจ่ายค่าจัดงานตามที่ WWE ต้องการได้ (แม้จะถูกปลอบใจด้วยการได้โผล่ในศึก Raw ที่บอสตันเดือนพฤศจิกายนก็ตาม)
การตัดสินใจครั้งนี้ชี้ชัดว่า WWE ให้ความสำคัญกับเงินมากกว่าความรู้สึกของนักมวยปล้ำและแฟนๆ และในเวลานี้ก็ถูกตั้งคำถามอย่างหนักในโลกออนไลน์ ทั้งที่ตัวของซีน่าเหลือเวลาปรากฎตัวเพียง 5 ครั้งเท่านั้น
ดูเหมือนเงินจะเป็นสิ่งสำคัญสุดสำหรับ WWE
ไม่ใช่แค่เรื่องการเปลี่ยนสถานที่จัดแมตช์อำลาเท่านั้น แต่การบริหารของ WWE ตลอดช่วงนี้สะท้อนชัดว่า “เงิน” คือปัจจัยหลักในการตัดสินใจทุกอย่าง
ตั้งแต่การตั้งราคาตั๋วที่สูงเกินจริง การจัดอีเวนต์โชว์ถี่ยิบเพื่อรีดรายได้ ไปจนถึงการเลือกเมืองที่มีกำลังจ่ายมากกว่า ตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดคือการย้าย WrestleMania 43 ในปี 2027 ไปจัดที่ซาอุดีอาระเบีย คือการตอกย้ำอีกครั้งว่า WWE ให้ค่ากับผลประโยชน์ทางการเงิน มากกว่าการสร้างโมเมนต์ที่น่าจดจำให้แฟนๆ หรือนักมวยปล้ำที่ทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตให้กับสมาคม
ทั้งหมดนี้สะท้อนชัดว่า WWE ขาดวิสัยทัศน์และความจริงจังในการจัดงานเลี้ยงอำลาให้กับ John Cena ชายผู้เป็นกระดูกสันหลังของสมาคมมากว่า 20 ปี
การตัดสินใจผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่ การบังคับพลิกบทเป็นอธรรม, การเขียนบทที่ล้มเหลว, แชมป์โลกสมัยที่ไม่ได้น่าจดจำ, ไปจนถึงการเปลี่ยนสถานที่อำลาที่ไร้ความหมาย ล้วนสะท้อนว่า WWE ไม่เคยให้ความสำคัญกับการปิดฉากอาชีพของซีน่าอย่างที่เขาสมควรได้รับ
สุดท้าย WWE ไม่ควรลืมว่า John Cena ไม่ได้เป็นเพียงนักมวยปล้ำธรรมดา แต่คือ สัญลักษณ์ของสมาคม คือแรงบันดาลใจของเด็กๆ และแฟนมวยปล้ำทั่วโลก เขาคือชายผู้ยึดมั่นใน Hustle, Loyalty, Respect มาตลอดอาชีพ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับเต็มไปด้วยการปฏิบัติที่ไร้เกียรติและขาดความเคารพ
นี่หรือ…คือการอำลาที่ ‘GOAT’ ของ WWE สมควรได้รับ?
