Kering บริษัทลักชัวรีเจ้าของแบรนด์ Gucci, Yves Saint Laurent, Balenciaga, Bottega Veneta และอีกมากมาย ได้ทำการขยายเวลาการเข้าซื้อกิจการแบรนด์ Valentino อย่างสมบูรณ์ออกไปเป็นปี 2029 จากตอนแรกที่ตกลงกันเอาไว้ที่ปี 2028
Kering ซื้อหุ้น Valentino ทั้งหมด 30% จาก Mayhoola บริษัทด้านการลงทุนสัญชาติกาตาร์ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ปัจจุบันในราคา 1.7 พันล้านยูโรเมื่อปี 2023 และมีแพลนในการซื้อหุ้นอีก 70% ให้ครบภายในปี 2028 แต่กำหนดการดังกล่าวต้องเปลี่ยนแปลงไป เพราะหลังจากที่ Kering ซื้อหุ้น 30% จาก Valentino เพียงไม่นาน ธุรกิจลักชัวรีก็เข้าสู่ภาวะซบเซาอย่างหนักจนเรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤติ และทาง Kering ก็ประสบปัญหาเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ซึ่งทำให้ผู้บริหารคนใหม่อย่าง Luca de Meo ที่กำลังจะเข้ามาทำงานอย่างเต็มตัวในอีกไม่กี่วันนี้ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์บริษัท
Luca de Meo เผยกับเหล่าผู้ถือหุ้น Kering ว่า สิ่งที่เขาให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในขณะนี้คือการชำระหนี้และลดต้นทุนบริษัท โดยในช่วงสิ้นปี 2024 ทาง Kering มีหนี้สูงขึ้นถึง 24% ในจำนวนเงิน 10.5 หมื่นล้านยูโร ซึ่งตอนแรกการซื้อหุ้น Valentino เป็นกลยุทธ์ของ Kering ในการลดความเสี่ยงของบริษัทที่เมื่อก่อนพึ่งพายอดขาย Gucci เป็นรายได้หลัก แต่ Gucci กลับพบปัญหายอดขายลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม Valentino ก็เผชิญปัญหาเดียวกัน จนต้องปรับเปลี่ยนจัดการระบบใหม่และปรับดีไซน์โปรดักต์ของแบรนด์ตลอดช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา จากที่แบรนด์มีรายได้ 1.35 พันล้านยูโร พร้อมด้วยกำไรสุทธิ 23.4 ล้านยูโรในปี 2023 ซึ่ง Kering ได้รายงานในปี 2024 ว่า ราคาหุ้น Valentino จะขึ้นอยู่กับเพอร์ฟอร์แมนซ์ของแบรนด์ในขณะนั้น รวมไปถึงการคาดการณ์สถานการณ์ของแบรนด์ในอนาคต และ Valentino ได้รับการประเมินราคาหุ้น 70% เอาไว้ที่ 4 พันล้านยูโรในช่วงสิ้นปี 2024
ภาพ: Zunino Celotto/Getty Images for Valentino
อ้างอิง: