โลกยานยนต์กำลังพลิกโฉมเข้าสู่ยุคใหม่อย่างชัดเจน รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ใช่แค่กระแส แต่กำลังกลายเป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตทั่วโลกต้องเร่งตามให้ทัน ยอดขาย EV พุ่งขึ้นหลายสิบเปอร์เซ็นต์ต่อปีทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่กลายเป็นหนึ่งในตลาด EV ที่โตเร็วที่สุดในอาเซียน
แต่การก้าวสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ได้หมายความว่าผู้ขับขี่จะยอมทิ้ง “อารมณ์ในการขับขี่”หรือเอกลักษณ์ที่พวกเขาหลงใหล ในขณะที่หลายแบรนด์ออกแบบ EV ที่เน้นราคาที่เป็นมิตร หรือความล้ำสมัยของเทคโนโลยี แต่สิ่งที่หายไปคือ “จิตวิญญาณ” ของแบรนด์อย่างแท้จริง
นี่คือสิ่งที่ Porsche พยายามพิสูจน์มาตลอดหลายปี ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร รถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาก็ยังต้องคงไว้ซึ่ง DNA ของ Porsche
ทำไม Porsche ถึงเป็นสุดยอดแห่งยานยนต์มาถึงทุกวันนี้?
Porsche ไม่ได้กลายเป็นแบรนด์รถสปอร์ตระดับตำนานโดยบังเอิญ ความยั่งยืนและตัวตนของแบรนด์นี้สะท้อนผ่าน
- DNA จากสนามแข่ง
จุดเริ่มต้นของ Porsche คือรถแข่ง ซึ่งได้พิสูจน์ตัวเองในสนาม Le Mans และสนามแข่งอื่นทั่วโลก จนกลายเป็นตำนานมอเตอร์สปอร์ตที่ยังคงรักษา DNA สมรรถนะและความคล่องตัวไว้เสมอ
- สืบทอดอัตลักษณ์จาก 356 สู่ 911
จากสปอร์ตคาร์รุ่นแรก 356 ในปี 1948 ในเมือง Gmünd ถึง 911 ที่ยังถูกนับว่าเป็น “รถที่ขับแล้วรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับถนน” ซึ่งยังสร้างแรงบันดาลใจให้รถรุ่นปัจจุบัน
- เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่คงอยู่ตลอดกาล
Porsche บุกเบิกด้านนวัตกรรม สมรรถนะ ความพิถีพิถัน สิ่งเหล่านี้รักษาความภักดีในใจลูกค้าให้คงอยู่ และทำให้ Porsche ยืนหยัดได้แม้โลกจะเปลี่ยนไป
DNA ของ Porsche คืออะไร?
ตัวตนที่สานต่อจากจุดเริ่มต้นของ Ferdinand Porsche มาถึงปัจจุบัน ได้ถักทอจนเกิดเป็น DNA ที่ไม่อาจลบเลือนได้ของ Porsche นั่นก็คือ
- สมรรถนะ (Performance)
ทุกครั้งที่คุณเหยียบคันเร่ง Porsche ไม่ได้แค่ตอบสนอง แต่พุ่งไปข้างหน้าด้วยพลังที่ทำให้หัวใจเต้นแรง พละกำลังนี้ไม่ได้มาแบบไร้ทิศทาง แต่ถูกออกแบบให้ “แรงแต่ควบคุมได้” ทั้งเร้าใจและแม่นยำพร้อมกัน
- การควบคุม (Handling)
หากใครเคยนั่งหลังพวงมาลัย Porsche จะเข้าใจทันทีว่า “การขับคือการสนทนากับถนน” พวงมาลัยตอบสนองในเสี้ยววินาที การกระจายน้ำหนักรถบาลานซ์อย่างที่ผู้ขับสัมผัสได้จริง ทุกโค้งคือการยืนยันว่ารถคันนี้เกิดมาเพื่อให้คุณ “เป็นหนึ่งเดียวกับเส้นทาง” ไม่ใช่แค่ผู้โดยสารบนถนน
- เอกลักษณ์การออกแบบ (Design)
จากรุ่น 356 สู่ 911 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ไฟหน้ากลมอันเป็นสัญลักษณ์ รวมถึงเส้นสายตัวถังที่ลู่ลมแต่ดุดัน รถยนต์ของ Porsche ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองความนิยมเพียงชั่วขณะ แต่ถูกออกแบบให้คงความเป็นเอกลักษณ์ของ Porsche ตั้งแต่แรกเห็น
นี่แหละคือหัวใจที่ Porsche รักษาไว้มาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นล่าสุด DNA ที่ไม่ว่าจะพัฒนาระบบขับเคลื่อนไปกี่ครั้ง ก็ยังทำให้ผู้ขับบอกได้อย่างมั่นใจว่า นี่คือ Porsche และได้ถ่ายทอดสู่ 3 รุ่นไฟฟ้าที่ยังคงครองใจผู้มีรักในการขับขี่ คือ Taycan Macan และ Panamera
The New Taycan: ไอคอนแห่ง EV Performance
Porsche Taycan ใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ไฟฟ้า แต่คือ “บทพิสูจน์” ว่าอนาคตของการขับขี่สามารถทั้งรักษาสมรรถนะและเพิ่มความล้ำสมัยไปพร้อมกัน
ทั้งดีไซน์ด้านหน้าและท้ายถูกปรับโฉมใหม่ ไฟหน้า HD Matrix ความละเอียดสูง มาพร้อมลายกราฟิก 4 จุดเอกลักษณ์ และโลโก้ Porsche 3 มิติบนไฟท้ายที่สามารถเรืองแสงได้
พร้อมสมรรถนะเหนือชั้น ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ที่เพลาหลังให้พละกำลังมากกว่ารุ่นก่อน 80 kW แต่เบากว่า 10.4 กก. ส่งผลให้ Taycan ใหม่ทุกคันเร่งได้เร็วกว่าเดิม
- Taycan รุ่นเริ่มต้น: 0–100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที
- Taycan Turbo S: เพียง 2.4 วินาที
- พิเศษด้วยฟังก์ชัน Push-to-Pass ที่เพิ่มกำลังชั่วคราวสูงสุด 70 kW เพียงกดปุ่ม 10 วินาที
ขับได้ระยะทางไกลขึ้น 35% กับแบตเตอรี่ Performance Battery Plus 105 kWh วิ่งได้ไกลสุด 678 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จเร็วทันใจ รองรับ DC 320 kW ชาร์จ 10–80% ในเวลาเพียง 18 นาที แม้จะเป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
สุดท้ายกับห้องโดยสารหรูหราเต็มออปชัน ที่มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น เบาะ 14 ทิศทาง ระบบเสียง BOSE ระบบควบคุมอุณหภูมิ 4 โซน และ Porsche Intelligent Range Manager ด้วยราคาเริ่มต้น 6,890,000 บาท (Taycan) และ 7,590,000 บาท (Taycan 4 Cross Turismo)
The New Macan: SUV EV ที่รวมทุกมิติของสมรรถนะและความหรูหรา
Porsche Macan ใหม่ คือการก้าวกระโดดครั้งสำคัญของ Porsche สู่โลก SUV ไฟฟ้าระดับพรีเมียม ดีไซน์ใหม่ ในสไตล์คูเป้สปอร์ต ฝากระโปรงลาด เส้นสายโฉบเฉี่ยว และค่าแรงต้านอากาศเพียง 0.25 หนึ่งใน SUV ที่แอโรไดนามิกที่สุดในตลาด ทำให้ทั้งเร็วและประหยัดพลังงาน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4,990,000 บาท
เบื้องหลังความโฉบเฉี่ยวคือสมรรถนะอันทรงพลัง
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 100 kWh
- วิ่งได้ไกลสูงสุด 641 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- พร้อมระบบชาร์จเร็ว DC 270 kW ที่เติมพลังจาก 10–80% ได้ในเพียง 21 นาที
สมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของ Porsche สะท้อนผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ePTM ที่กระจายแรงบิดได้เร็วกว่ารุ่นก่อน 5 เท่า เสริมด้วย Torque Vectoring Plus และช่วงล่างถุงลม PASM รุ่นใหม่ที่ผสานทั้งความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนน อีกทั้งยังมีระบบเลี้ยวล้อหลังที่ทำให้คล่องตัวในเมืองและมั่นคงเมื่อใช้ความเร็วสูง
ภายในออกแบบให้สปอร์ตและกว้างขวางขึ้น ตำแหน่งเบาะนั่งต่ำเพื่อสัมผัสการขับแบบ Porsche พร้อมหน้าจอ 3 จอ และ AR Head-up Display ที่ฉายข้อมูลเสมือนจริงบนกระจกหน้า
แม้จะเป็นรถสมรรถนะสูง แต่ Macan ใหม่ยังตอบโจทย์ชีวิตจริงด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังสูงสุด 540 ลิตร และ Frunk ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าอีก 84 ลิตร รวมถึงการพับเบาะหลังที่เพิ่มพื้นที่ได้ถึง 1,348 ลิตร ครบทั้งความเร้าใจและการใช้งานจริงในคันเดียว
Panamera: ซีดานหรูที่ยังรักษาอารมณ์ Porsche อยู่เต็มเปี่ยม
ในโลกของซีดานหรูที่เต็มไปด้วยทางเลือกมากมาย Panamera คือการผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและอารมณ์สปอร์ตที่ลงตัว การออกแบบโฉมล่าสุดยังคงเส้นสายที่ลู่ลมแบบรถสปอร์ต เติมเต็มด้วยไฟท้าย LED ที่ทอดยาว และห้องโดยสารที่หรูหราแต่แฝงด้วยความดุดัน
สมรรถนะยังคงเป็นจุดยืนหลัก Panamera รุ่นใหม่มีตัวเลือกตั้งแต่
- เครื่อง V8 เทอร์โบคู่ 500 แรงม้า
- รุ่น Panamera 4 E-Hybrid ที่เสริมขุมพลังไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 470 แรงม้า ไปจนถึง Panamera Turbo S E-Hybrid ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 782 แรงม้า เร่ง 0–100 กม./ชม. ในเวลาราว 2.9 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม.
การควบคุมยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Porsche Active Suspension Management (PASM), Porsche Active Ride ในรุ่น E-Hybrid ที่ปรับสมดุลได้แบบเรียลไทม์ หรือระบบเลี้ยวล้อหลังที่ทำให้รถคล่องในเมืองแต่มั่นคงเมื่อใช้ความเร็วสูง ทั้งหมดนี้ทำให้ Panamera ยืนยันชัดว่า ต่อให้เปลี่ยนร่างกายเป็นซีดานหรู ก็ยังรักษาจิตวิญญาณ DNA ความสปอร์ตของ Porsche ไว้ครบถ้วน
โอกาสแห่งปีที่ไม่ควรพลาดที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ยนตรกรรมสปอร์ตจาก Porsche
การเลือก Porsche ไม่ใช่แค่การซื้อรถยนต์ แต่คือการลงทุนในประสบการณ์การขับขี่ระดับโลก จากแบรนด์ที่พิสูจน์ตัวเองมานานกว่าเก้าทศวรรษ และยังคงรักษาความเป็น “รถสปอร์ตแท้” แม้โลกจะก้าวเข้าสู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2025 Porsche ประเทศไทยได้มอบข้อเสนอพิเศษมูลค่าสูงสุดถึง 500,000 บาท สำหรับรุ่น Taycan และ 280,000 บาทสำหรับ Macan และ Panamera ซึ่งไม่เพียงทำให้การเป็นเจ้าของ Porsche เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย ข้อเสนอสุดพิเศษนี้มีขึ้นเพื่อสานฝันให้คุณเป็นเจ้าของรถสปอร์ตไฟฟ้าพรีเมียมได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยข้อเสนอพิเศษนี้ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น
สำหรับ Macan และ Panamera ซึ่งไม่เพียงทำให้การเป็นเจ้าของ Porsche เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย ข้อเสนอสุดพิเศษนี้มีขึ้นเพื่อสานฝันให้คุณเป็นเจ้าของรถสปอร์ตไฟฟ้าพรีเมียมได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยข้อเสนอพิเศษนี้ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น
สำหรับ Taycan มอบสิทธิพิเศษมูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท
- ฟิล์มกรองแสงพรีเมียม (Midas หรือ Avery Dennison)
- อุปกรณ์ชาร์จ Porsche Mobile Charger Connect
- ประกันภัยชั้น 1 ระยะเวลา 2 ปี
สำหรับ Macan และ Panamera มอบสิทธิพิเศษรวมมูลค่ากว่า 280,000 บาท
- ฟิล์มกรองแสง
- อุปกรณ์ชาร์จ Porsche Mobile Charger Connect
- การรับประกัน Porsche Approved Warranty รวมสูงสุดถึง 4 ปี
หากกำลังมองหาทั้ง สมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยีแห่งอนาคต นี่คือจังหวะแห่งการตัดสินใจที่จะทำให้คุณได้สัมผัส ที่สุดของ Luxury Performance EV จาก Porsche ที่มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ 6 แห่งทั่วประเทศ มั่นใจเรื่องบริการหลังการขาย และ Porsche EV จะมอบทั้ง สมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผู้ขับขี่ไม่อาจหาจากที่ไหนได้
ลงทะเบียนรับข้อเสนอที่ th.porscheonlinesales.com/event/pth-contact-for-ev