ล่าสุดสถานการณ์น้ำในเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร อยู่ในขั้นวิกฤต โดยเว็บไซต์ thaiwater.net เปิดเผยข้อมูลล่าสุด (3 ส.ค.) พบว่า ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มสูงถึง 101% ล้นความจุจากความจุที่รองรับได้ 520 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 525 ล้านลูกบาศก์เมตรไปเรียบร้อยแล้ว
ด้าน ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนน้ำอูน มีน้ำล้นทางระบายน้ำฉุกเฉิน (Service Spillway) ประมาณ 6 เซนติเมตร หรือคิดเป็นปริมาณน้ำล้น 1.22 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนปริมาณน้ำในอ่างอยู่ที่ 525 ล้านลูกบาศก์เมตร ตรงกับข้อมูลจาก thaiwater.net ซึ่งขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำผ่านทางระบบชลประทาน พร้อมติดตั้งกาลักน้ำช่วยระบายน้ำจำนวน 10 ชุด ซึ่งจะสามารถระบายน้ำรวมกันได้ทั้งสิ้น 3.60 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อควบคุมปริมาณน้ำให้ลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ควบคุมอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้สำนักเครื่องจักรกลดำเนินการติดตั้งกาลักน้ำเพิ่มเติมอีกจำนวน 15 ชุด ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำเป็น 600,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน รวมทั้งสิ้นจะสามารถระบายน้ำได้ 4.15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้การควบคุมปริมาณน้ำในอ่างฯ อยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้เร็วขึ้น เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สิ้นสุดฤดูฝน จึงต้องเตรียมพื้นที่ไว้รองรับปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าอ่างฯ มากขึ้นในระยะต่อไป
ทั้งนี้อธิบดีกรมชลประทานยืนยันว่า การระบายน้ำออกจากอ่างฯ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ปริมาณน้ำที่ระบายทั้งหมดจะไหลลงสู่ลำน้ำอูนและลำน้ำสงคราม ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง บริเวณอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ตามลำดับ
ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชลประทานให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำสงครามอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานจังหวัดเพื่อรายงานสถานการณ์น้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร บึงกาฬ นครพนม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว