ผู้นำโลกจากกว่า 20 ประเทศ รวมถึง อินเดีย รัสเซีย เมียนมา มาเลเซีย อิหร่าน ตุรกีและปากีสถาน และผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ เดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation : SCO) ประจำปี 2025 ที่จัดขึ้น ณ นครเทียนจิน ของจีน ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-1 กันยายน
โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้การต้อนรับบรรดาผู้นำโลก และได้มีการหารือทวิภาคีนอกรอบกับหลายผู้นำ รวมถึงนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย, วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และพลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย รักษาการประธานาธิบดีเมียนมา ท่ามกลางบรรยากาศความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์อันดี
สี กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมอย่างเป็นทางการในวันนี้ (1 กันยายน) โดยเน้นย้ำความสำคัญที่ประเทศสมาชิกควรต่อต้านทัศนคติแบบสงครามเย็นและการกลั่นแกล้งรังแกกัน ซึ่งคาดว่าเป็นการสื่อความหมายโดยตรงถึงสหรัฐฯ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อก็ตาม
ขณะที่ สี ชี้ว่า “SCO นั้น ได้วางแบบอย่างสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนและวุ่นวาย” พร้อมทั้งย้ำจุดยืนของ SCO ที่คัดค้านการแทรกแซงจากภายนอก และยืนหยัดเคียงข้างความยุติธรรมระหว่างประเทศ รวมทั้งต่อต้านลัทธิครอบงำและการเมืองแบบใช้อำนาจ
เขาเน้นว่า SCO จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของตลาดขนาดใหญ่ ในการพัฒนาการค้าและการลงทุน โดยสมาชิก SCO จำเป็นต้องร่วมกันส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง
“จีนจะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ เพื่อยกระดับเวทีความมั่นคงภูมิภาคขึ้นไปอีกระดับ”
โมดีพบสี หารือฟื้นสัมพันธ์
การหารือนอกรอบระหว่างสี และโมดี ที่เยือนจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ซึ่งจับตามองการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอินเดีย หลังจากที่ย่ำแย่ลงอย่างมากนับตั้งแต่เหตุปะทะในบริเวณพื้นที่พิพาทชายแดนเมื่อปี 2020
การพบหารือระหว่างทั้งสองผู้นำ เกิดขึ้นในขณะที่จีนและอินเดียต่างเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
ขณะที่สี บอกโมดีระหว่างกล่าวเปิดการประชุม SCO ว่า ทางเลือกที่ถูกต้องคือการที่ “ทั้งสองประเทศเป็นเพื่อนกัน” ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
“โลกทุกวันนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษ สถานการณ์ระหว่างประเทศนี้ทั้งผันผวนและวุ่นวาย เป็นทางเลือกที่ถูกต้องสำหรับทั้งสองฝ่ายที่จะเป็นเพื่อนที่ดี มีความสัมพันธ์ฉันมิตรไมตรี เป็นหุ้นส่วนที่ส่งเสริมความสำเร็จของกันและกัน และให้มังกรและช้างเผือกได้เต้นรำไปด้วยกัน” สีกล่าว โดยอ้างถึงสัญลักษณ์ดั้งเดิมของทั้งสองประเทศ
“ตราบใดที่ทั้งสองประเทศยึดมั่นในทิศทางโดยรวมของการเป็นหุ้นส่วนมากกว่าคู่แข่ง ความสัมพันธ์จีน-อินเดียสามารถรักษาเสถียรภาพและก้าวไปข้างหน้าได้ในระยะยาว” เขากล่าว
ขณะที่โมดีกล่าวว่า อินเดีย ‘มุ่งมั่น’ ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ก้าวหน้า ‘บนพื้นฐานของความไว้วางใจและความเคารพซึ่งกันและกัน’ และกล่าวถึงแนวทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายความตึงเครียดในพื้นที่พิพาทบริเวณแนวชายแดนเทือกเขาหิมาลัย
“ผลประโยชน์ของประชาชน 2.8 พันล้านคนในทั้งสองประเทศ เชื่อมโยงกับความร่วมมือของเรา” เขากล่าวเสริม
ภาพ : Sputnik/Alexander Kazakov/Pool via REUTERS
อ้างอิง :