ค่ำคืนที่ Blundell Park กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโลกลูกหนัง
เมื่อแฟนบอล Grimsby Town แห่งลีกทู วิ่งกรูลงสนามหลังเห็นทีมรัก…สร้างหนึ่งใน ‘ปาฏิหาริย์ลูกหนัง’ ด้วยการเขี่ย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบ คาราบาว คัพ
ชาร์ลส์ เวอร์แนม และ ไทเรล วอร์เรน อดีตเด็กปั้นปีศาจแดง ยิงให้ Grimsby นำห่าง 2-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก ท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนบอล 8,647 คนที่เต็มความจุสนาม
แม้ยูไนเต็ดจะไล่ตีเสมอได้จาก ไบรอัน เอ็มเบวโม่ นาที 75 และ แฮร์รี แม็กไกวร์ นาที 89 จนเกมยืดไปถึงการดวลจุดโทษ แต่ช่วงเวลาแห่งฝันร้ายของ Grimsby ก็กลายเป็นฝันอันหวานชื่นในทันทีเมื่อพวกเขาชนะการดวลเป้า 12-11 แม้กระทั่งผู้รักษาประตูทั้งสองทีมยังต้องยิงจุดโทษด้วยตัวเอง
“มันบ้าคลั่งจริงๆ” คริส ซัตตัน อดีตดาวยิงพรีเมียร์ลีกและกูรู BBC กล่าว
“แฟนบอลที่บุกลงสนาม พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน การยิงจุดโทษก็เพี้ยนพอๆ กับเกม 90 นาที นี่แหละคือ giant killing (แจ็กผู้ฆ่ายักษ์) ที่แท้จริง”
จากทีมที่ 4 ปีก่อนยังเล่นอยู่ในเนชันแนลลีก วันนี้ Grimsby กำลังถูกพูดถึงไปทั่วโลก ผู้จัดการทีม เดวิด อาร์เทล บอกว่า “นี่คือค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมสำหรับสโมสร เมือง และชุมชน”
ขณะที่ผู้รักษาประตู คริสตี พิม ที่ทั้งเซฟและยิงประตูเองในช่วงดวลจุดโทษ ยอมรับว่า “มันยังไม่ทันซึมซับเลย…ผมเป็นแฟนแมนยูด้วยนะ เลยเหมือนทั้งโกรธทั้งดีใจในเวลาเดียวกัน แต่คืนนี้คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงเล่นฟุตบอล มันยอดเยี่ยมจริงๆ”
สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ความพ่ายแพ้ครั้งนี้กำลังจะถูกจดจำว่าเป็นหนึ่งในเกมที่แย่ที่สุดของพวกเขา เมื่อสโมสรที่มีมูลค่าทีม 765 ล้านปอนด์ ถูกทีมที่มีมูลค่าเพียง 3.1 ล้านปอนด์จากลีกล่างกว่า 3 ดิวิชันเขี่ยตกรอบ มันคือการตอกย้ำว่าในเกมลูกหนัง ไม่มีชื่อชั้นหรือราคาค่าตัวใดการันตีชัยชนะได้เสมอไป…