วันนี้ (25 สิงหาคม) ที่ประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 12 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ชี้แจงตอบกระทู้ถามเป็นหนังสือของสุทนต์ กล้าการขาย สมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวกับความพร้อมและทิศทางการพัฒนาระบบ Cell Broadcast (CBS) ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินและภัยพิบัติให้แก่ประชาชน
ธีรรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดทำมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedure: SOP) และมาตรฐานระบบแจ้งเตือนภัย Common Alerting Protocol (CAP) ครอบคลุมแล้วกว่า 8 ประเภทภัย ทั้งแผ่นดินไหว สึนามิ วาตภัย อุทกภัย ดินโคลนถล่ม ภัยหนาว ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และเหตุรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการจัดทำ SOP เพิ่มเติมสำหรับภัยจากกองกำลังนอกประเทศ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมทุกมิติ
สำหรับความคืบหน้ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทดสอบระบบ Cell Broadcast ทั้งในระดับเล็ก ระดับกลาง และระดับใหญ่ และปัจจุบันได้นำมาใช้งานจริงแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม ถึงปัจจุบัน มีการส่งข้อความแจ้งเตือนภัยไปแล้วกว่า 122 ครั้ง
ล่าสุด คือ การแจ้งเตือนพายุคาจิกิ แจ้งเตือนพายุ คาจิกิ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม ช่วงวันที่ 24-27 ส.ค.68 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 58 จังหวัด ซึ่งช่วยให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้มีเวลาเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
ส่วนประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้รับข้อความธีรรัตน์ ได้ชี้แจงว่า โทรศัพท์บางเครื่องอาจไม่ได้อัปเดตซอฟต์แวร์ หรืออยู่นอกพื้นที่ที่หน่วยงานต้องการที่จะแจ้งเตือน ทำให้ไม่ได้รับการแจ้งเตือน แต่ยืนยันว่า ณ ปัจจุบัน ระบบ Cell Broadcast ได้มีการใช้งานจริงแล้ว
ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้บูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับผิดชอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Cloud Server และระบบเชื่อมต่อข้อมูล ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทำหน้าที่จัดทำระบบส่งข้อความ Cell Broadcast Entity (CBE) ส่วนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือดูแล Cell Broadcast Center (CBC) เพื่อกระจายข้อความไปถึงประชาชนทั่วประเทศอย่างครอบคลุมและรวดเร็ว
ธีรรัตน์ กล่าวย้ำว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าต่อยอดระบบให้ครอบคลุมสาธารณภัยทุกมิติ เพื่อยกระดับมาตรฐานการแจ้งเตือนภัยของประเทศให้ทันสมัย ได้มาตรฐานระดับสากล และสอดคล้องกับพันธกิจของรัฐบาลที่ยึดมั่นในความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชน