เป็นข่าวลือที่ออกมาเป็นระลอกตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า แอนนา วินทัวร์ (Anna Wintour) บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Vogue อเมริกาตั้งแต่ปี 1988 และหนึ่งในบุคคลที่สำคัญสุดของวงการแฟชั่นจะลาออกจากบริษัท Condé Nast ที่เธอรับตำแหน่งเป็น Artistic Director อีกด้วย
แต่ล่าสุด บ็อบ เซาเออร์เบิร์ก (Bob Sauerberg) ซีอีโอของบริษัทก็ได้มาสยบข่าว โดยการทวีตข้อความผ่านแอ็กเคานต์องค์กร Condé Nast ว่า แอนนาคือบุคคลที่มีอำนาจและความคิดสร้างสรรค์เกินที่จะวัดในวงการ และบทบาทของเธอในการเปลี่ยนแปลงบริษัท Condé Nast ถือว่ามหาศาล โดยปิดท้ายว่าแอนนายังจะทำงานต่อไปในสองตำแหน่งอย่างไม่มีกำหนด
หนึ่งในเหตุผลหลักที่มีกระแสการลาออกในครั้งนี้ก็เกิดขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในผังองค์กรนิตยสาร Vogue อเมริกา โดยให้สองบรรณาธิการคนสำคัญอย่าง โทนนี กู๊ดแมน (Tonne Goodman) ในตำแน่ง Fashion Director และ ฟิลลิส พอสนิก (Phyllis Posnick) ในตำแหน่ง Executive Fashion Editor เปลี่ยนมาเป็นฟรีแลนซ์ประจำของเล่ม ส่วน เวอร์จิเนีย สมิธ (Virginia Smith) ที่เคยเป็น Fashion and Accessories Market Director ก็ถูกโปรโมตให้เป็น Fashion Director คนใหม่ โดยเธอก็ยังคงต้องทำหน้าที่เดิมพร้อมภาระใหม่ ซึ่งก็สะท้อนวิธีการประหยัดงบประมาณของเล่ม และให้บรรณาธิการต้องดูแลงานที่มากขึ้น
มากไปกว่านั้นยังมีข่าวลือออกมาว่า สำหรับนิตยสาร Vogue เล่มเดือนกันยายน 2018 ที่เป็นเล่มสำคัญสุดประจำปี มีการเลือกให้นักร้องสาวบียอนเซ่มาขึ้นปก โดยเป็นครั้งแรกที่แอนนายอมให้นางแบบที่ขึ้นปกอย่างบียอนเซ่มีอำนาจคุมทุกอย่าง เช่นช่างภาพที่เลือก ซึ่งให้ ไทเลอร์ มิตเชลล์ (Tyler Mitchell) เป็นช่างภาพผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ Vogue ตลอด 126 ปีมาถ่ายให้ ซึ่งใครที่ติดตามประวัติการทำงานของแอนนาก็จะรู้ว่าเธอเป็นคนที่ควบคุมและตัดสินใจทุกกระเบียดนิ้วของนิตยสาร Vogue ทุกเล่ม แต่หลายคนก็คาดเดาว่า หรือเพราะตอนแรกแอนนาจะลงจากตำแหน่งบรรณาธิการ เธอเลยยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องรอให้ปกเล่มกันยายนของนิตยสาร Vogue อเมริกาเผยออกมาอย่างแน่ชัดในเร็ววันนี้
แต่ก็ต้องดูกันต่อไปว่าวงการนิตยสารแฟชั่นและบทบาทของแอนนาจะมีมากน้อยขนาดไหน ด้วยการเปลี่ยนแปลงทิศทางการบริโภคสื่อที่เน้นออนไลน์มากขึ้น โดยแอนนาก็เป็นบรรณาธิการคนแรกๆ ที่ได้โฟกัสด้านดิจิทัลจนทำให้ Vogue เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นสำคัญบนโลกออนไลน์สายแฟชั่นที่มี แซลลี ซิงเกอร์ (Sally Singer) เป็นคนดูแล แต่เพราะเม็ดเงินที่ถูกกระจายมากขึ้นตามแพลตฟอร์มสื่อที่ขยายตัวจนมีตัวเลือกมากมาย แม้แต่แอนนาเองก็ต้องขายความเป็นแบรนด์ของเธอ เช่นการทำงานล่าสุดกับการที่เธอออกไลน์รองเท้าผ้าใบรุ่น ‘Awok’ กับ Air Jordan ภายใต้โปรเจกต์กับ Vogue
อ้างอิง: